xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ยิงถล่มฐานทัพซีเรียทำลาย “เครื่องบินรบอัสซาด” ไปถึง 1 ใน 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (10 เม.ย.) ว่าปฏิบัติการโจมตีฐานทัพอากาศของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วส่งผลให้ระบอบ บาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องสูญเสียเครื่องบินรบไปถึง 1 ใน 5

การประเมินผลปฏิบัติการยิงถล่มฐานทัพอากาศชัยรอต (Shayrat) มีขึ้น ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ได้จัดประชุมกันที่อิตาลี เพื่อส่ง “สัญญาณที่ชัดเจนร่วมกัน” ไปยังรัสเซียให้เลิกอุ้มรัฐบาลอัสซาด

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (7) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้สั่งให้เรือพิฆาตสหรัฐฯ 2 ลำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กจำนวน 59 ลูกเข้าใส่ฐานทัพอากาศชัยรอตในจังหวัดฮอมส์ ซึ่งเพนตากอนระบุว่า เป็นจุดที่ อัสซาด ใช้ส่งเครื่องบินพร้อมอาวุธเคมีไปโจมตีพลเรือนในเขตยึดครองของกบฏที่จังหวัดอิดลิบ

“สหรัฐฯ ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ เมื่อรัฐบาลอัสซาดเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธเคมี ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งซีเรียก็เคยประกาศว่าได้ทำลายอาวุธประเภทนี้ไปจนหมดสิ้นแล้ว” แมตทิส แถลง พร้อมระบุว่าการโจมตีของสหรัฐฯ ทำให้ “เครื่องบินปฏิบัติการ” ของกองทัพซีเรียถูกทำลายไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์

ก่อนหน้านี้ โฆษกทำเนียบขาว ฌอน สไปเซอร์ ก็ได้ออกมาขู่เป็นนัยๆ ว่า ซีเรียจะต้องเผชิญบทลงโทษจากสหรัฐฯ อีก หากขืนใช้แม้กระทั่ง “ระเบิดถังน้ำมัน” (barrel bombs) ซึ่งเป็นอาวุธที่ทำขึ้นง่ายๆ แต่มีอานุภาพทำลายล้างไม่เลือกหน้า

“ถ้าคุณใช้ก๊าซพิษกับเด็กๆ หรือทิ้งระเบิดถังน้ำมันใส่คนบริสุทธิ์อีก คุณจะต้องเจอมาตรการตอบสนอง” สไปเซอร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งได้ออกมาปฏิเสธคำขู่เช่นนี้ โดยย้ำว่า “จุดยืนของสหรัฐฯ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง... ประธานาธิบดีได้พูดชัดเจนแล้วว่า จะยังไม่มีการขยายมาตรการตอบโต้ทางทหาร”

ทรัมป์ ได้โทรศัพท์หารือเรื่องซีเรียกับนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ และนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี เมื่อวันจันทร์ (10) ซึ่งผู้นำหญิงทั้งสองก็ “สนับสนุนปฏิบัติการของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ และเห็นด้วยกับ ทรัมป์ ว่าประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด จะต้องมีส่วนรับผิดชอบ” กับเหตุสังหารหมู่ในซีเรีย ทำเนียบขาวระบุ

ด้านทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษบนถนนดาวนิงก็แถลงว่า เมย์ “เห็นพ้องกับผู้นำสหรัฐฯ ว่ายังมีโอกาสที่นานาชาติจะโน้มน้าวให้รัสเซียเล็งเห็นว่าการเป็นพันธมิตรกับ อัสซาด นั้นไม่ใช่ผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของมอสโกอีกต่อไป”

ทั้ง ทรัมป์ และ เมย์ ยังจับตาผลการไปเยือนรัสเซียในสัปดาห์นี้ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ซึ่งคงจะเป็นโอกาสที่ดีในการวางรากฐาน “เพื่อบรรลุข้อตกลงการทางเมืองที่ยั่งยืน” สำนักงานนายกฯ อังกฤษ ระบุ

ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลุ่ม G7 ที่เมืองลุกกา (Lucca) แคว้นทัสกานีของอิตาลี โบริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้กล่าวประณามอัสซาดว่าเป็น “ตัวพิษร้าย” และว่าถึงเวลาแล้วที่ “ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน จะต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับทรราชที่เขาให้การหนุนหลังอยู่”


กำลังโหลดความคิดเห็น