รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เกิดประท้วงครั้งใหญ่วันเสาร์(8 เม.ย) ประชาชนผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน เอ็นริเก กาปริเลส (Henrique Capriles) ลงถนนเรียกร้อง ปะทะตำรวจปราบจลาจลที่ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง กระสุนน้ำกับประชาชนที่มีก้อนหิน ระเบิดเพลิง และหน้ากากกันแก๊สพิษ ไม่พอใจหัวหน้าฝ่ายค้านถูกคำสั่งแบนทางการเมือง 15 ปี หมดสิทธิ์ลงชิงสู้มาดูโรในเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาปีหน้า มีรายงานบาดเจ็บอย่างน้อย 17 ราย ถูกจับทั่วประเทศ 51 ราย
รอยเตอร์รายงานวันนี้(9 เม.ย)ว่า มานูเอล กาลินโด (Manuel Galindo) หัวหน้าสำนักงานกำกับบัญชีและการเงินเวเนซุเอลา(Venezuelan Comptroller) ในวันศุกร์(7 เม.ย) ออกคำสั่งลงโทษ อดีตผู้สมัครลงชิงประธานาธิบดีเวเนซุเอลา 2 สมัย เอ็นริเก คกปริเลส (Henrique Capriles) วัย 44 ปี ห้ามลงเลือกตั้งเป็นเวลา 15 ปี
อ้างเหตุ พบ “ความผิดปกติทางการบริหาร” ของกาปริเลสที่ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมิรันดา (Miranda) และข้อกล่าวหายังรวมไปถึงการละเมิดกฎหมายสัญญา(contracting law) และการจัดการเงินบริจาคอย่างไม่เหมาะสม
รอยเตอร์ชี้ว่า กาปริเลส นั้นถูกมองว่าเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณสมบัติมากที่สุดที่จะมีโอกาสคว่ำประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโรได้ในการเลือกตั้งปี 2018 ซึ่งก่อนหน้านี้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2013 ผู้นำฝ่ายค้านวัย 44 ปีคนนี้แพ้ไปอย่างหวุดเหวิด เป็นการเลือกตั้งที่นำมาดูโร ทายาทของอดีตประธานาธิบดีเวเนซุเอลา อูโก ชาเบซ บิดาแห่งการปฎิวัติสังคมนิยมเวเนซุเอลา เข้าสู่อำนาจ บีบีซีรายงาน
เอเอฟพีรายงานว่า อย่างไรก็ตาม กาปริเลสประกาศจะขอยื่นอุทธรณ์ในคำสั่งตัดสิน และจะอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมิรันดาต่อไป โดยเขาดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2008
และพบว่าคำสั่งแบนทางการเมืองต่อตัวคาปริเลส นั้นสร้างเสียงประณามจากทั้งแดนลาตินอเมริกา และสหรัฐฯ ที่ต่างออกมาประกาศว่า ประเทศเหล่านี้มีความกังวลต่อการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายของผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา
โดยในรายงานของรอยเตอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯออกมาแถลงไม่ยอมรับ โดยระบุว่า เป็นคดีทางการเมือง
การประท้วงในวันเสาร์(8 เม.ย)ทั้งในกรุงคาราคัส และในเมืองต่างๆทั่วเวเนซุเอลา กลายเป็นความรุนแรงเมื่อผู้ประท้วงจำนวนราว 4,000 คน ตัวเลขจากการอ้างของเอเอฟพี รวมตัวทางตะวันออกของกรุงคาราคัส โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเวเนซุเอลา ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง กระสุนน้ำ ปะทะประชาชนที่มีก้อนหิน ระเบิดเพลิง และหน้ากากกันแก๊สพิษเป็นอาวุธบนถนนไฮเวย์สายหนึ่ง
บีบีซีรายงานว่า ในการประท้วงในกรุงคาราคัส มีผู้ประท้วงจำนวนมากถือป้ายข้อความ “ปฎิเสธเผด็จการ” และ “กาปริเลสเป็นประธานาธิบดี” โดยเป็นการประท้วงครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์นี้
เอเอฟพีรายงานต่อว่า หนึ่งในผู้ประท้วง อันเดล รินโคเนส(Adel Rincones) วัย 61 ปี ที่ได้ติดป้ายที่มีข้อความว่า “เวเนซุเอลาบาดเจ็บที่หัวใจต่อความหิวโหย โศกเศร้า คอร์รัปชัน และเผด็จการ” ได้กล่าวว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นต่อกาปริเลสจากฝีมือของคนเหล่านี้เป็นผลงานของเผด็จการ”
ในขณะที่ วาเนสซา การ์เซีย(Vanessa Garcia) นักศึกษาคณะทัศนมาตรศาสตร์ วัย 37 ปี กล่าวว่า “ประชาชนเวเนซุเอลาล้าจากการคอร์รัปชัน หิวโหยและความยากจน
พบว่ามีตำรวจอย่างน้อย 2 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิดเพลิง ซึ่งตัวเลขผู้บาดเจ็บจากนายกเทศมนตรีของเขตหนึ่งในกรุงคาราคัสเปิดเผยว่า อยู่ที่ 17 ราย และจากการให้ข้อมูลของกาปริเลส ยืนยันว่า สำนักงานของเขาถูกโจมตีด้วยระเบิด ไม่นานหลังการประท้วงเริ่มขึ้น โดยรอยเตอร์ชี้เพิ่มเติมว่า สำนักงานของกาปริเลสนั้นถูกไฟไหม้หลังแก๊สน้ำตาถูกยิงเข้าไปด้านใน
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ผู้ประท้วงบุกเข้าไปยังสำนักงานศาลสูงเวเนซุเอลา และทำลายทรัพย์สิน รวมไปถึงโยนอุปกรณ์ก่อสร้างเข้าไปด้านในและจุดไฟเผา อ้างอิงจากพยานของรอยเตอร์
เอเอฟพีรายงานต่อว่า จากฟอรัมเอ็นจีโอกฎหมายอาญาเวเนซุเอลา( NGO Criminal Justice Forum)ระบุว่า ในการประท้วงทั่วประเทศในวันเสาร์(8 เม.ย) มีผู้ถูกจับกุม ไม่ต่ำกว่า 51 คน