เอเจนซีส์ - ศาลเคนยามีคำพิพากษาห้ามตำรวจใช้ผลตรวจวัดแอลกอฮอล์เอาผิดกับคนขับรถที่ดื่มสุรา หลังเจ้าของบาร์รายหนึ่งร้องเรียนว่า มาตรการเช่นนี้เป็นการละเมิดเสรีภาพ และทำให้ธุรกิจของเขาเกือบจะเจ๊ง
การิอูกิ รุยธา เจ้าของบาร์ชาวเคนยา อ้างว่าการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิ์แก่ประชาชนในการเลือกใช้ชีวิต รวมถึงการจะดื่มเหล้ามากน้อยแค่ไหนด้วย
หลังจากสู้คดีมานานถึง 3 ปี ในที่สุดศาลก็มีคำตัดสินเข้าข้างผู้ประกอบการรายนี้
เคนยาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีถนนอันตรายที่สุดในโลกอยู่หลายสาย และมีสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากถึง 1,574 คน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2016
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ 3 คน ระบุว่า ผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎจราจรยังมีสิทธิ์ถูกตั้งข้อหา และในกรณีนี้ตำรวจก็สามารถนำเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์มาใช้ได้
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า รุยธา ซึ่งเปิดบาร์เหล้าอยู่ในกรุงไนโรบี ได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อเอาผิดกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เมื่อราว 3 ปีก่อน โดยระบุว่า ร้านของเขามีรายได้ลดลง 80% และจำเป็นต้องเลย์ออฟพนักงานถึง 44 คน เนื่องจากลูกค้าที่ออกจากร้านมักถูกตำรวจดักตรวจแอลกอฮอล์
เมื่อปี 2014 ทนายของ รุยธา ได้วิจารณ์มาตรการเหล่านี้ ว่า “กดขี่และไร้เหตุผล” เนื่องจากผู้ขับขี่ยังไม่ได้กระทำผิดกฎจราจรใดๆ เลย
ข้อโต้แย้งของทนายผู้นี้ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของบาร์อีกรายหนึ่ง ซึ่งฟ้องศาลเพื่อคัดค้านการตรวจวัดแอลกอฮอล์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะทางกฎหมายครั้งนี้คงจะเป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากผู้พิพากษาได้เรียกร้องให้รัฐสภาแก้ไขกฎหมายเสียใหม่
“ถึงอย่างไรก็เสีย การห้ามขับขี่รถยนต์ขณะมึนเมาก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น และคดีนี้ก็ได้รับความสนใจจากสาธารณชนมาก รัฐบาลจึงควรแก้ไขกฎหมายให้รัดกุมโดยเร็ว” คณะผู้พิพากษาระบุ ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว MediaMax