เอเอฟพี – กองทัพรัสเซียระบุในวันนี้ (7) ว่า การโจมตีของสหรัฐฯต่อฐานทัพอากาศในซีเรียนั้นไร้ผลแต่ประกาศว่า การป้องกันทางอากาศของซีเรียจะถูกยกระดับขึ้นเพื่อป้องกันโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศนี้
“เพื่อป้องกันโครงสร้างพื้นฐานที่เปราะบางที่สุดของซีเรีย จะมีการบังคับใช้มาตรการชุดหนึ่งในอนาคตอันใกล้เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของระบบป้องกันภัยทางอากาศขิงกองทัพซีเรีย” อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวในถ้อยแถลง
เขากล่าวเสริมว่า การโจมตีของสหรัฐฯมีผลกระทบทางทหาร “น้อยมากๆ” และขีปนาวุธทั้ง 59 ลูกของสหรัฐฯถูกเป้าหมายไม่ถึงครึ่ง
“มีขีปนาวุธเพียง 23 ลูกเท่านั้นที่ไปถึงฐานทัพอากาศของซีเรีย” เขากล่าว
การโจมตีฐานทัพอากาศเชย์รัตตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ทำลายเครื่องบิน 6 ลำที่กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมและอาคารหลายแห่งรวมถึงคลังพัสดุและสถานีวิทยุ เขากล่าว
“รันเวย์ ทางขับ และเครื่องบินของกองทัพอากาศซีเรียที่อยู่ในลานจอดไม่ได้รับความเสียหาย” เขากล่าว
“ดังนั้นการโจมตีฐานทัพอากาศซีเรียด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯจึงเกิดประสิทธิผลทางทหารน้อยมากๆ”
อีกด้านหนึ่ง สถานีโทรทัศน์ รอสซิยา24 ของทางการรัสเซีย ในรายงายจากฐานทัพดังกล่าว ระบุว่า เครื่องบิน 9 ลำรวมถึงคลังอาวุธและคลังเชื้อเพลิงถูกทำลาย แต่รันเวย์ของฐานทัพไม่เสียหาย
ถ้อยแถลงของโคนาเชนคอฟ ระบุว่า การโจมตีนี้เป็นการละเมิดบันทึกความตกลงระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียที่มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะเหนือซีเรีย
มอสโคประกาศก่อนหน้านี้ว่า พวกเขากำลังระงับข้อตกลงที่ได้รับการบรรลุในปี 2015 เพื่อตอบโต้การดจมตีดังกล่าว ถึงแม้ว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน จะยืนยันว่า ฝ่ายสหรัฐฯได้เตือนรัสเซียแล้วถึงการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่พวกจัดตั้งขึ้น
ทรัมป์สั่งการโจมตีดังกล่าว การดำเนินการทางทหารโดยตรงครั้งแรกของวอชิงตันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในการตอบสนองต่อสิ่งที่เขาเรียกว่าการโจมตีด้วยอาวุธเคมี “อย่างโหดเหี้ยม” ในสัปดาห์นี้ที่เขาโทษว่าเป็นฝีมือฝ่ายดามัสกัส
มอสโคทำการทิ้งระเบิดเพื่อสนับสนุนกองทัพซีเรียมาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2015 และพยายามที่จะทำให้พันธมิตรของพวกเขาไม่ตกเป็นเป้าการกล่าวโทษเรื่องการโจมตีด้วยอาวุธเคมี