รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเชื่อว่า การที่สหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศของซีเรียเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซียเสียหายร้ายแรง สำนักข่าวแดนหมีขาวอ้างจากคำพูดของโฆษกปูตินในวันนี้ (7 เม.ย.)
ผู้นำรัสเซีย พันธมิตรเหนียวแน่นของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด มองว่า การกระทำของสหรัฐฯเป็นการรุกรานประเทศเอกราช” ด้วย “ข้ออ้างที่สร้างขึ้นเอง” และเป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนสนใจของโลกจากการเสียชีวิตของพลเรือนในอิรัก ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของปูติน กล่าว
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7) สหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธร่อนหลายสิบลูกใส่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของซีเรีย สถานที่ส่งเครื่องบินขับไล่ออกไปโจมตีด้วยอาวุธเคมีในสัปดาห์นี้
มอสโกดาดหวังที่จะร่วมงานกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯเพื่อร่วมกันต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย ความเคลื่อนไหวที่พวกเขาเชื่อมั่นว่าจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซียที่กำลังตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามเย็น
แต่การกระทำล่าสุดของสหรัฐฯ ได้สร้างความตกตะลึงในรัสเซีย กระตุ้นโทสะเครมลินและสมาชิกสภานิติบัญญัติโปรรัฐบาลที่ระบุ มันได้ทำลายความหวังใดๆ ก็ตามที่จะทำธุรกิจกับทรัมป์
“ปูตินมองว่า การโจมตีของสหรัฐฯ เป็นการรุกรานรัฐเอกราชซึ่งละเมิดบรรทัดฐานกฎหมายระหว่างประเทศและมาจากข้ออ้างที่สร้างขึ้นเอง” เปสคอฟ ระบุ
“การกระทำของวอชิงจันจะทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซียได้ความเสียหายอย่างรุนแรง”
เปสคอฟกล่าวว่า รัสเซียไม่เชื่อว่าซีเรียครอบครอบอาวุธเคมี และการกระทำของสหรัฐฯ ได้สร้างอุปสรรคสำคัญในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย แนวคิดที่ปูตินผลักดันมาโดยตลอด
ในตอนนี้รัสเซียจะเรียกร้องให้มีการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อหารือเรื่องนี้ สำนักข่าวอาร์ไอเอรายงานโดยอ้างจาก วิกเตอร์ โอเซรอฟ ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคงของสภาสูง
ไม่มีพลเมืองรัสเซียได้รับบาดเจ็บในการโจมตีนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติอีกรายหนึ่งกล่าว ในขณะที่ คอนสแตนติน โคซาเชฟ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของสภาสูง กล่าวว่า มันดูเหมือนว่าทรัมป์อาจถูกกดดันให้อนุมัติการโจมตีดังกล่าวโดยกระทรวงกลาโหมและหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ
นอกจากรัสเซียแล้ว อิหร่านซึ่งก็เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ก็ออกมาประณามการโจมตีนี้ว่า “เป็นการทำลายล้างและอันตราย” สำนักข่าวนักศึกษา อิสนา อ้างจากคำพูดของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
“อิหร่านประณามการโจมตีโดยฝ่ายเดียวเช่นนี้ การกระทำเช่นนี้จะทำให้ผู้ก่อการร้ายในซีเรียเข้มแข็งขึ้น และจะสร้างความยุ่งยากให้กับสถานการณ์ในซีเรียและภูมิภาคนี้” อิสนาอ้างคำพูดของบาห์รัม กาเซมี
.
ในวันนี้ (7) ทาลัล บาราซี ผู้ว่ากาจังหวัดฮอมของซีเรียที่อยู่ใกล้กับฐานทัพอากาศดังกล่าว ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแต่เชื่อว่าไม่ได้เป็นจำนวนมาก
บาราซีกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นประโยชน์สำหรับ “กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ” รวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) พร้อมเสริมว่า ฐานทัพอากาศที่ตกเป็นเป้านี้กำลังให้การสนับสนุนทางอากาศกับปฏิบัติการของกองทัพต่อกลุ่มไอเอสทางตะวันออกของเมืองพัลไมรา
บาราซีกำลังให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อในวันนี้ (7) เขายืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตที่ฐานทัพอากาศแห่งดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสถานีโทรทัศน์ อัล-มายาดีน ของเลบานอน
“ผมเชื่อด้วยประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่ได้มาก แต่มีความเสียหายทางวัตถุ เราหวังว่า จะไม่มีเหยื่อและผู้สละชีวิตเป็นจำนวนมาก” เขาบอกกับรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์
เขากล่าวเมื่อช่วงเช้าตรู่ว่า ปฏิบัติการการกู้ภัยและดับเพลิงดำเนินอยู่เป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่ฐานทัพแห่งดังกล่าว
เขากล่าวว่า การโจมตีนี้เป็น “การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธรูปแบบหนึ่ง และมันเป็นความพยายามที่จะทำให้ความสามารถของกองทัพซีเรียในการต่อสู้กับการก่อการร้ายอ่อนแอลง”
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของซีเรีย บานาซี กล่าวว่า “ตำแหน่งผู้นำและนโยบายของซีเรียจะไม่เปลี่ยนแปลง”
“การมุ่งเป้าเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและผมเชื่อว่ามันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย” เขากล่าวเสริม ในการแสดงความคิดเห็นต่อ อัล-มายาดีน เขากล่าวว่า “สงครามปราบปรามการก่อการร้ายจำดำเนินต่อไป”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯกล่าวว่า เขาสั่งการโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่ฐานทัพดังกล่าวซึ่งเป็นสถานที่ส่งเครื่องบินขับไล่ไปทำการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในสัปดาห์นี้ และประกาศว่า เขาทำเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ” จากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย