เอเอฟพี - ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดรีสอร์ตส่วนตัวสุดหรูต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และภริยาเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) พร้อมออกมาทำนายว่าการพบปะกันครั้งแรกจะก่อให้เกิด “มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่” ระหว่างกัน ขณะที่หลายฝ่ายเฝ้าจับตาการหารือซึ่งคาดว่าจะมีการหยิบยกประเด็นความมั่นคงและข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนขึ้นมาพูดคุย
บรรยากาศการพบกันครั้งแรกระหว่างผู้นำมหาอำนาจทั้งสองเป็นไปอย่างอบอุ่น โดย ทรัมป์ ยังคงสวมสูทผูกเนกไทสีแดงตามสไตล์เดิมๆ ของเขา ซึ่งตัดฉับกับเนกไทสีน้ำเงินของผู้นำจีน
ทรัมป์กล่าวว่า เขารู้สึก “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ที่ได้เปิดบ้านต้อนรับประธานาธิบดีของจีน พร้อมกับยิงมุกตลกเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง
“เราคุยกันมาก็นานแล้ว แต่ผมยังไม่ได้อะไรสักอย่าง... ไม่ได้อะไรเลย” ทรัมป์ กล่าว ซึ่งเรียกเสียงฮาตึงจากบรรดาคณะผู้แทนทั้ง 2 ฝ่าย
“แต่ผมเชื่อว่าในระยะยาวเราจะมีความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ต่อกัน และผมเองก็รอคอยวันนั้น”
ทรัมป์ เคยวิพากษ์วิจารณ์จีนสารพัดเรื่องระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว เช่น กล่าวหาว่าจีน “ข่มขืน” เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยังเยาะเย้ยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ลงทุนจัดเลี้ยงอาหารค่ำแบบรัฐพิธีเพื่อต้อนรับ สี จิ้นผิง โดยบอกว่าถ้าเป็นตนก็จะสั่งแค่ “บิ๊กแมค” มาเลี้ยงผู้นำจีน
ทว่าภาพที่ปรากฏในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่รีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก เมื่อค่ำวานนี้ (6) กลับมีทั้งเก้าอี้ขอบทอง แก้วน้ำสุดหรู อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่จากเงินแท้ ส่วนเมนูอาหารก็เป็น "ปลาตาเดียวในซอสแชมเปญ" กับ “นิวยอร์กสตริปสเต็ก” แทนที่จะเป็นอาหารจานด่วนจากแมคโดนัลด์อย่างที่ ทรัมป์ เคยคุยเอาไว้
เมลาเนีย ทรัมป์ และ เผิง ลี่หยวน สองสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้ร่วมโต๊ะอาหารค่ำกับผู้นำทั้งสองด้วย โดย ทรัมป์ นั้นออกปากชมภริยาของสี ว่าเป็นอดีตนักร้องเสียงทองที่ “โด่งดังมาก”
สีและภริยาเลือกที่จะไปพักค้างคืนที่สปารีสอร์ตอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก มาร์-อา-ลาโก ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงวิจารณ์จากสาธารณชน
ผู้นำสหรัฐฯ และจีนจะรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกันในวันนี้ (7) และคงจะได้มีการหารือในประเด็นสำคัญๆ ทั้งเรื่องการค้า ภัยคุกคามเกาหลีเหนือ รวมถึงกรณีที่พลเมืองซีเรียถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อไม่กี่วันก่อน
แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่าสี เตรียมที่จะเสนอแพ็กเกจการลงทุนของจีนที่จะช่วยสร้างงานให้ชาวอเมริกันได้มากกว่า 700,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นเคยให้สัญญาไว้กับทรัมป์ ตอนไปเยือนรีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก เมื่อเดือน ก.พ.
นอกจากนี้ จีนยังอาจยื่นข้อเสนอเปิดตลาดรถยนต์และสินค้าเกษตรมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งยอมใช้มาตรการบีบคั้นธุรกรรมการเงินของเกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับการที่ ทรัมป์ จะยอมผ่อนปรนบทลงโทษทางภาษี และชะลอการส่งขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน อย่างน้อยก็จนกว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดประชุมใหญ่ในช่วงปลายปีนี้
