เอเจนซีส์ - สตีฟ แบนนอน หัวหน้าที่ปรึกษายุทธศาสตร์ของทรัมป์ถูกสั่งถอดออกจากสภาความมั่นคงสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) แหล่งข่าวภายในอ้าง หมดความจำเป็น หลังอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯ ไมเคิล ฟลินน์ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งความมั่นคงสหรัฐฯอีกต่อไป ประธานาธิบดีทรัมป์ หมดความจำเป็นต้องใช้แบนนอน อดีตสื่อขวาจัดในการถ่วงดุลอำนาจ
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ว่า การออกมาเปลี่ยนตัวคนในรัฐบาลทรัมป์ล่าสุดสร้างความฮือฮา เมื่อพบว่า สตีฟ แบนนอน หัวหน้าที่ปรึกษายุทธศาสตร์ทางการเมือง และที่ปรึกษาอาวุโส คีย์แมนคนสำคัญของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสั่งปลดจากสภาความมั่นคงสหรัฐฯแล้วในวันพุธ (5 เม.ย.) และพบว่าในคำประกาศเดียวกันนี้ยังมีชื่อ 2 บุคคลสำคัญถูกทรัมป์แต่งตั้งกลับเข้ามา
โดยสื่อสหรัฐฯชี้ว่า แดน โคตส์ (Dan Coats) ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (national intelligence) และพลเอก โจเซฟ ดันฟอร์ด (Joseph Dunford) ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมแห่งกองทัพสหรัฐฯ ถูกเสนอชื่อให้เข้ามานั่งอยู่ในชุดคณะกรรมาธิการหลักการ (the Principals Committee) ประจำสภาความมั่นคงสหรัฐฯอีกครั้ง ซึ่งเป็นการแต่งตั้งที่พร้อมกับรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ริค เพอร์รี ส่งเข้าไปนั่งในคณะกรรมาธิการชุดนี้
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวออกมาให้ความเห็นว่า การออกมาเขย่าครั้งนี้ไม่ใช่ “การแก่งแย่งทางอำนาจ” ในชุดรัฐบาลทรัมป์อย่างแน่นอน
และแหล่งข่าวคนเดิมยังอ้างต่อว่า แบนนอนนั้นได้รับตำแหน่งในชุดคณะกรรมาธิการหลักประจำสภาความมั่นคงสหรัฐฯ เพื่อเหตุผลการถ่วงดุลอำนาจกับอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯ ไมเคิล ฟลินน์ เท่านั้น และเมื่อฟลินน์ไม่อยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว ดังนั้น จึงไม่ความจำเป็นที่ต้องให้เขานั่งอยู่ต่อไป
ในขณะที่แหล่งข่าวอีกคนออกมาชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงล่าสุดนี้เกิดขึ้นจากฝีมือการจัดการของที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯคนใหม่ เอช.อาร์. แม็คมาสเตอร์ (H.R. McMaster) ที่ได้รับข้อตกลงในการจัดการเปลี่ยนแปลงเมื่อครั้งที่แม็คมาสเตอร์เจรจาในการยอมรับตำแหน่งแทนฟลินน์
NBC NEWS ชี้ว่า แบนนอน อดีตผู้บริหารไบรต์บาร์ต นิวส์ (Breitbart News) สื่อขวาจัดที่มี จาเรด คุชเนอร์ ลูกเขยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเจ้าของ มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมภาความมั่นคงสหรัฐฯเพียงแค่ 1 เท่านั้น โดยแหล่งข่าวระบุว่า แบนนอนยังคงมีใบอนุญาตทางความมั่นคงที่เรียกว่า ซีวคิวริตี เคลียร์แรนซ์ อยู่
ทั้งนี้ ทรัมป์ตัดสินใจแต่งตั้งแบนนอนเป็นฝ่ายปฏิบัติการทางการเมืองในสภาความมั่นคงสหรัฐฯในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว และถึงกับทำให้ พอล แม็คเคน สมาชิกสภาสูงพรรครีพับลิกัน รัฐแอริโซนา ออกมาประกาศเรียกการเข้ามาของแบนนอนว่า “ถือเป็นสิ่งแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด”
ด้าน เน็ด ไพรซ์ (Ned Price) อดีตโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงแสดงความยินดีต่อการที่แบนนอนหลุดออกจากที่นั่งในสภาแห่งนี้ โดยแถลงว่า “การถอดสตีฟ แบนนอน จะน่ายินดี หากว่าช้าออกไป ตั้งแต่ตอนแรก” และยังกล่าวต่อว่า “การถอดแบนนอนออกนั้นสมควรที่จะเกิดขึ้นตั้งนานแล้วเหมือนกับการแต่งตั้งบรรดาพวกผู้นำที่ปรึกษาข่าวกรองและการทหาร ที่ข้อมูลและการให้คำปรึกษาของคนเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการจัดทำนโยบายต่างประเทศ”