เอเอฟพี - เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธไปตกในทะเลญี่ปุ่นอีกครั้งเช้าวันนี้ (5 เม.ย.) ถือเป็นการประกาศท้าทายก่อนที่ผู้นำสหรัฐฯ และจีนจะพบปะกันตัวต่อตัว โดยคาดว่าจะมีการหยิบยกเรื่องโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดงขึ้นมาหารือด้วย
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า จรวดลูกนี้เดินทางไปได้ไกลประมาณ 60 กิโลเมตร ขณะที่กองกำลังสหรัฐฯ ระบุว่า จรวดที่โสมแดงนำออกมายิงคือขีปนาวุธพิสัยกลาง KN-15 ซึ่งไม่เป็นภัยคุกคามต่ออเมริกา
“กองบัญชาการแปซิฟิก (US Pacific Command) ยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เพื่อรักษาความมั่นคง”
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันเช่นกันว่าเปียงยางได้นำขีปนาวุธพิสัยกลางออกมายิง “อีกครั้งหนึ่ง” แล้ว
“สหรัฐอเมริกาพูดถึงเกาหลีเหนือมามากพอแล้ว เราไม่มีอะไรจะพูดอีก” เขากล่าว
รัฐบาลปลาดิบออกมาประณามเช่นเคยว่า การทดสอบจรวดครั้งนี้ถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ “ญี่ปุ่นจะไม่อดทนกับการยั่วยุซ้ำๆ ซากๆ ของเกาหลีเหนือ รัฐบาลขอประท้วงและประณามเรื่องนี้อย่างรุนแรง” โยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุ
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าโสมแดงกำลังมุ่งมั่นพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ที่จะสามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปโจมตีแผ่นดินสหรัฐฯ ได้ และจนถึงขณะนี้ก็ทดสอบนิวเคลียร์มาแล้วถึง 6 ครั้ง รวม 2 ครั้งในปีที่แล้ว
ท่าทีล่าสุดของเกาหลีเหนือมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯ พร้อมจะ “ลุย” กับโสมแดงด้วยตัวเอง หากจีนซึ่งมีอำนาจต่อรองมากที่สุดไม่ช่วยกันกดดัน และก่อนที่ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในสัปดาห์นี้
เมื่อวันจันทร์ (3) กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกมาแถลงตอบโต้คำพูดคุยโวของ ทรัมป์ รวมถึงปฏิบัติการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นแผนซ้อมรุกรานโสมแดง
โฆษกกระทรวงบอกผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอว่า “การกระทำที่ไร้ความยับยั้งชั่งใจ” เหล่านี้กำลังทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ จนเสี่ยงที่จะเกิดสงคราม ส่วนเรื่องที่สหรัฐฯ คาดหวังว่าจะใช้บทลงโทษทางเศรษฐกิจบีบให้เกาหลีเหนือละทิ้งการป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (nuclear deterrent) ก็เป็นได้แค่ “ฝันลมๆ แล้งๆ”
ทรัมป์ และ สี จะพบปะกันแบบตัวต่อตัวที่รีสอร์ตสุดหรู มาร์-อา-ลาโก ของ ทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา ซึ่งคาดว่าคงจะมีการหยิบยกปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีมาพูดคุยกันด้วย
วอชิงตันเริ่มแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวมากขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือได้ระดมยิงขีปนาวุธลงทะเลพร้อมกันถึง 4 ลูกเมื่อต้นเดือน มี.ค. โดย 3 ลูกลอยไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น มิหนำซ้ำยังคุยโวว่าเป็นการซ้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในแดนอาทิตย์อุทัย
เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือซ้อมยิงจากเรือดำน้ำ (submarine-launched ballistic missile - SLBM) ก็พุ่งไปในทิศทางสู่หมู่เกาะญี่ปุ่นเป็นระยะทางถึง 500 กิโลเมตร จนผู้นำ คิม จอง อึน ถึงกับออกปากว่าเป็น “ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ทั้งนี้ หากโสมแดงครอบครองเทคโนโลยี SLBM ที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ก็จะถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงขึ้นไปอีกขั้น เพราะหมายความว่าพวกเขาจะส่งมันออกไปใช้งานนอกคาบสมุทรเกาหลีได้ และยังเพิ่มศักยภาพในการ “ยิงตอบโต้ซ้ำ” ในกรณีที่ฐานทัพโสมแดงถูกต่างชาติโจมตี