เอพี/MGRออนไลน์ – ค่ำวานนี้(3 เม.ย) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯขอผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ร้องต่อผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางอเมริกา ขอเวลาต่อไปอีก ในข้อตกลงร่วมกับตำรวจเมืองบัลติมอร์ในการปฎิรูประบบตำรวจเมืองนี้ใหม่ทั้งหมด ควันหลงคดีเหยียดสีผิว เฟรดดี เกรย์ ที่กลายเป็นเหตุจลาจล ก่อนหน้านี้ โดยทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯอ้างว่า ต้องการเวลาเพิ่มเพื่อทำการศึกษาว่าข้อตกลงนี้ขัดแย้งกับนโยบายใหม่ของรัฐมนตรียุติธรรม เจฟ เซสชันส์ ของรัฐบาลทรัมป์หรือไม่
เอพีรายงานเมื่อวานนี้(3 เม.ย)ว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้ร้องขอต่อเวลาออกไปอีก 90 วัน ในค่ำวันจันทร์(3 เม.ย) เกิดขึ้น 3 วันก่อนที่จะมีการไต่สวนตามกำหนดของผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ คนใหม่ในชุดรัฐบาลทรัมป์ เจฟ เซสชันส์ ได้ออกมาแถลงว่า เขาได้ออกคำสั่งให้มีการพิจารณาครั้งใหญ่ของข้อตกลงที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ทำร่วมกับหน่วยงานตำรวจท้องถิ่น ที่รวมไปถึงแผนปฎิรูปที่ศาลสั่งบังคับกับหน่วยงานตำรวจเมืองต่างๆในอเมริกาที่มีปัญหา
ทั้งนี้พบว่า เซสซันส์ได้ออกมาให้ความเห็นนับครั้งไม่ถ้วนถึงกระบวนการตรวจสอบที่ยาวนานต่อหน่วยงานตำรวจนั้น ส่งผลเสียต่อทั้งระบบ ต่างจากสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายต้องได้รับโทษต่อพฤติกรรมที่กระทำผิด ซึ่งพบว่าที่ผ่านมา ตำรวจสหรัฐฯถูกขึ้นชื่อในเรื่องการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มอเมริกันผิวสี
เอพีรายงานว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯได้ใช้ข้ออ้างขอการเลื่อนระยะเวลาออกไป ซึ่งในเหตุผลที่เลือกใช้ รวมไปถึง อ้างถึงนโยบายใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯระบุว่า มีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนอาญากรรม รวมไปถึงการพิจารณาทบทวนคำสั่งที่มีอยู่แล้ว หรือกำลังจะเกิดขึ้นใหม่
ซึ่งเอพีชี้ว่า หากว่าผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯยอมอนุมัติ จะส่งผลระงับชั่วคราวทันทีต่อกระบวนการปฎิรูปที่จะนำไปสู่การกวาดล้างหรือการยกเครื่องใหม่ของสำนักงานตำรวจบัลติมอร์ที่มีปัญหาทั้งสำนักงาน ซึ่งพบว่า ทั้งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯและสำนักงานตำรวจบัลติมอร์สามารถบรรลุข้อตกลงคำตัดสินตามความยินยอม(consent decree )ก่อนที่อดีตรัฐมนตรียุติธรรมผิวสีคนเก่า โลเรตตา ลินช์ จะหมดอำนาจ
ทั้งนี้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯอ้างว่า ทางกระทรวงตระหนักว่า มีความจำเป็นที่ต้องปฎิรูปตำรวจในเมืองบัลติมอร์ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯชี้ว่า ทางเมืองบัลติมอร์มีความก้าวหน้าต่อการปฎิรูปตามขั้นตอนของตนเองแล้ว และดังนั้น จึงอาจเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการเหล่านี้อย่างเหมาะสมเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายยังดำเนินต่อ ในขณะที่ยังสามารถปกป้องความปลอดภัยสาธารณะได้คราวเดียวกัน
การออกมาแถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯสร้างความแปลกใจให้กับนายกเทศมนตรีเมืองบัลติมอร์ แคเธอรีน พิวจ์ฮ์(Catherine Pugh)พรรคเดโมแครต ที่กล่าวว่า “เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ” แต่ยังคงหวังว่า การเลื่อนออกไปนั้นจะไม่ใช่ช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน เพราะเจ้าหน้าที่เมืองบัลติมอร์ ต้องการที่จะให้ประชาชนในเมืองมีความเชื่อมั่นต่อระบบตำรวจบัลติมอร์อีกครั้ง
เอพีรายงานว่า ข้อตกลงคำตัดสินตามความยินยอมนั้นเกิดมาจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ออกรายงานสรุปถึงระบบตำรวจบัลติมอร์ที่ใช้ “สีผิว” เป็นตัวกำหนดในการเรียกตรวจ และดำเนินคดี และการความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ เกิดขึ้นหลังจากเหตุจลาจลในคดีของเฟรดดี เกรย์ (Freddie Gray) ถูกจับกุมโดยตำรวจบัลติมอร์อ้างเหตุพกมีดพับและวิ่งหนี และเสียชีวิตลงจากเหตุคอหักตายระหว่างถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจด้วยรถตู้สถานี แต่ตำรวจบัลติมอร์ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยให้
เฟรดดี เกรย์เป็นหนุ่มผิวสีแอฟริกันอเมริกันวัย 25 ปี เอพีทิ้งท้าย