รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เคลื่อนไหวปรับความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซิ แห่งอียิปต์ในวันจันทร์ (3 เม.ย.) หลังความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดในยุคสมัยของรัฐบาลบารัค โอบามา โดยให้คำรับประกันสนับสนุนและประกาศจะทำงานร่วมกันในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
“ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ในกรณีนี้ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเราให้การสนับสนุนประธานาธิบดีซิซิเป็นอย่างยิ่ง เขาทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราหนุนหลังอียิปต์และประชาชนชาวอียิปต์” ทรัมป์กล่าวระหว่างพบปะกับผู้นำอียิปต์ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว
นับเป็นครั้งแรกที่ ซิซิ เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2014 ขณะที่ บารัค โอบามา ผู้นำคนก่อนของอเมริกา ไม่เคยส่งคำเชื้อเชิญให้เขาเดินทางมาเยือนวอชิงตัน
โอบามา ระงับความช่วยเหลือแก่อียิปต์มาเป็นเวลานาน 2 ปี หลังจาก ซิซิ ซึ่ง ณ ขณะนั้นยังเป็นนายพล ได้ก่อรัฐประหารโค่นอำนาจประธานาธิบดีโมฮาเมด มอร์ซี ในช่วงกลางปี 2013 หลังมีการประท้วงใหญ่ตอต้านการปกครองของมอร์ซีในอียิปต์
ในการพบปะกันแบบตัวต่อตัวระหว่างทรัมป์กับซิซิ ซึ่งมีขึ้นตามหลังการประชุมแยกกันระหว่างผู้ช่วยระดับสูงของสองฝ่าย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการเดินเครื่องความสัมพันธ์ใหม่แบบทวิภาคีกับอียิปต์ และสานต่อความเชื่อมโยงระหว่างสองประธานาธิบดี ที่เคยพบกันครั้งแรกที่นิวยอร์กในเดือนกันยายนปีก่อน ช่วงที่ ทรัมป์ ยังไม่ได้เป็นผู้นำอเมริกา
“ผมอยากบอกกับท่านประธานาธิบดี ว่ากับสหรัฐฯ และกับผม คุณจะมีเพื่อนและพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่” ทรัมป์กล่าว ส่วน ซิซิ บอกว่าเขาชื่นชมทรัมป์เกี่ยวกับจุดยืนที่แข็งกร้าวในด้านต่อต้านอุดมการณ์ปีศาจ อ้างถึงการต่อสู้กับพวกไอเอส
ขณะที่ ทรัมป์ ยอมรับว่าสหรัฐฯและอียิปต์มีบางอย่างที่ยังไม่เห็นพ้องต้องกัน แต่เขาก็ไม่ได้พาดพิงอย่างตรงๆ เกี่ยวกับความกังวลของอเมริกาต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนในอียิปต์
กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ เรียกร้องให้ปล่อยตัว อายา ฮิจาซี พลเมืองสหรัฐฯเชื้อสายอียิปต์ ที่ทำงานช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนและถูกจับกุมในเดือนพฤษภาคม 2014 ตามข้อกล่าวหาค้ามนุษย์ โดยเขาถูกขังมาเป็นเวลากว่า 33 เดือนแล้ว ขณะที่ตามกฎหมายอับิปต์ เจ้าหน้าที่รัฐสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อนการพิจารณาคดีได้สูงสุดแค่ 24 เดือน
ขณะเดียวกัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ คาดหมายด้วยว่ารัฐบาลซิซิได้ควบคุมตัวนักโทษคดีการเมืองอย่างน้อยๆ 40,000 คน
อียิปต์เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของวอชิงตันในตะวันออกกลาง โดยดินแดนแห่งนี้ได้รับเงินช่วยเหลือด้านการทหารจากสหรัฐฯ 1,300 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่พวกเขากำลังสู้รบกับพวกก่อความไม่สงบอิสลามิสต์ในไซนาย ซึ่งมีนายทหารและตำรวจอียิปต์ถูกสังหารไปแล้วหลายร้อยนาย
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งเผยว่าทำเนียบขาวพร้อมลดระดับความแข็งกร้าวในสุ้มเสียงวิพากษ์วิจารณ์อียิปต์ต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน และหันมาทำงานร่วมกันในด้านต่อต้านก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม วอชิงตันไม่มีความตั้งใจที่จะเพิ่มเงินช่วยเหลือแก่ประเทศแห่งนี้