xs
xsm
sm
md
lg

InPics : “ดินถล่มอินโดฯ” โคตรน่ากลัว เนินสูงร่วม 100 ม.พังทับบ้านเป็นหลัง ฝังไม่ต่ำกว่า 38 ชีวิต ลุยค้นหาต่อ ดับ 2 สูญหาย 27

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - หลังเกิดเหตุดินถล่มบนเกาะชวาตะวันออก ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ (1 เม.ย.) ทำให้มีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่ทว่าฝนที่ตกอย่างหนักอีกครั้งในวันอาทิตย์ (2) ทำให้ปฏิบัติการค้นหาต้องถูกหยุดชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่มกลับมาอีกครั้ง ยอดตัวเลขเสียชีวิตล่าสุด 2 สูญหายไม่ต่ำกว่า 27

สื่อเยอรมนี DW รายงานเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) ว่า ฝนตกหนักและบรรดารถที่ปิดถนนเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของหน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียในวันอาทิตย์ (2) หลังจากเกิดเหตุดินถล่มในชวาตะวันออก เมื่อวันเสาร์ (1) ในเวลาราว 08.00 น.

อ้างอิงจากสื่ออินโดนีเซีย จาการ์ตาโพสต์ รายงานในวันอาทิตย์ (2) สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติโพโนโรโก BPBD ได้แถลงว่า เกิดเหตุดินถล่มขึ้นในเวลา 08.00 น.ของวันเสาร์ (1) ฝังบ้านจำนวน 23 หลังในพื้นที่ และรวมไปถึงคนจำนวนหลายสิบ

ทั้งนี้ พบว่าในจำนวนผู้สูญหายทั้งหมดล่าสุด 27 คนนั้น รวมไปถึงคนงานปลูกขิงบนเนินในช่วงเกิดเหตุ ซึ่งจาการ์ตาโพสต์ชี้ว่าเนินดินที่ถล่มลงมานั้นมีความสูงร่วม 100 เมตร ที่มากไปกว่านี้ หลังเกิดเหตุพบว่าดินที่ถล่มลงมาในพื้นที่ได้รับผลกระทบ มีความลึกถึงร่วม 5 เมตร

ด้านเจ้าหน้าที่ BPBD เซตโย บูดิโอโน (Setyo Budiono) ได้แถลงในวันเสาร์ (1 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุว่า “ทางเรามีรถขุดจำนวน 4 คัน จอดรอเตรียมความพร้อมในพื้นที่เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการอพยพ”

เอพีรายงานว่า เหตุดินถล่มเกิดขึ้นในหมู่บ้านบานาราน (Banaran) หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกขิงในเขตโพโนโรโก (Ponorogo) จ.ชวาตะวันออก โดยอ้างอิงจากหัวหน้าทหารในพื้นที่ พ.ท.ซลาเมต ซาริจานโต (Slamet Sarijanto) กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ได้เปิดเผยว่ามีคนจำนวน 38 รายถูกฝัง

ในขณะที่รัฐมนตรีสังคมอินโดนีเซีย โคฟิฟาห์ อินดาร์ พาราวานซา (Khofifah Indar Parawansa) ออกมาชี้ว่า เหตุดินถล่มที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากพื้นที่ซึ่งเกิดเหตุไม่มีการปกคลุมหน้าดิน และเกิดภาวะเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสาเหตุที่เกิดมาจากจำนวนที่ลดลงของน้ำที่ซึมเข้าสู่ชั้นใต้ดิน และระบบการทำไร่ปลูกขิงที่นั่น ที่ไม่เป็นไปตามความพยายามในการรักษาระบบนิเวศ

โดยรัฐมนตรีสังคมอินโดฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายอย่างจริงจัง จากการรายงานของจาการ์ตาโพสต์ว่า “เราต้องเร่งสร้างจิตสำนึกของคนในพื้นที่ให้ตระหนักถึงภัยธรรมชาติให้มากกว่านี้”

สื่อ DW รายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ยอดสูญเสียยังอยู่ที่ 2 คน โดยทหารในพื้นที่อีกราย เจมส์ ราตู เอโด (Jemz Ratu Edo) แถลงในวันอาทิตย์ (2 เม.ย.) ว่า ทางเจ้าหน้าที่สามารถดึงร่างได้ไม่ต่ำกว่า 2 ศพ ออกมาได้สำเร็จก่อนที่ปฏิบัติการกู้ภัยจากถูกหยุดลงชั่วคราว

ในขณะที่โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติอินโดนีเซีย ชี้ว่า งานที่ท้าทายสำหรับเจ้าหน้าที่กู้ภัยคือ สภาพถนนไปยังพื้นที่ประสบภัยนั้นแคบมาก แต่กลับมีรถจำนวนมากอยู่บนถนน เพราะมีคนต้องการมุงดูเหตุการณ์ ดังนั้น จึงเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่

และพบว่า ในวันอาทิตย์ (2 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จังหวัดได้ใช้มอเตอร์ไซค์ขับเข้าไปตรวจการในพื้นที่ โดยมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 1,655 คน เข้าไปค้นหาผู้รอดชีวิต

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประชาชนในพื้นที่ได้รับการเตือนถึงเหตุภัยพิบัติดินถล่มก่อนหน้า และได้ถูกอพยพในช่วงคืนก่อนเกิดเหตุ แต่ทว่าคนเหล่านี้เดินทางกลับเข้ามาในช่วงเช้าเพื่อทำงาน โดยมีจำนวนมากได้ทำงานปลูกขิงบนเนินซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดเหตุดินถล่ม








กำลังโหลดความคิดเห็น