เอพี - ทางการอินโดนีเซียได้ทำลายเรือของต่างชาติเป็นจำนวน 81 ลำ ซึ่งในนี้มีเรือไทยรวมอยู่ด้วย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังจากยึดเรือเหล่านี้เอาไว้ในข้อหาลักลอบทำประมงอย่างผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำของแดนอิเหนา
อินโดนีเซียซึ่งเป็นชาติหมู่เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้หันมาใช้จุดยืนแข็งกร้าวจัดการกับต่างชาติที่ลักลอบเข้าไปหาปลาอย่างผิดกฎหมาย ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี โจโค “โจโควี” วิโดโด เข้ารับตำแหน่งในปี 2014 โดยนับแต่นั้นมาพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบได้ทำลายเรือต่างชาติที่ยึดไว้ด้วยข้อหาความผิดดังกล่าวเป็นจำนวน 317 ลำแล้ว รวมทั้งคราวล่าสุดนี้ด้วย
ทั้งนี้ การทำลายเรือครั้งล่าสุดกระทำกันกลางทะเลในบริเวณต่างๆ 12 จุด รอบๆ หมู่เกาะอินโดนีเซีย เมื่อวันเสาร์ (1 เม.ย.) จุดที่มีเรือถูกทำลายมากที่สุด คือ 26 ล ำในหมู่เกาะนาทูนา บริเวณริมขอบทะเลจีนใต้ และรองลงมาคือ 10 ลำ ในบริเวณเมืองท่าตาเรมปา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
เรือเหล่านี้แทบทั้งหมดมาจากเวียดนาม, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และ ไทย
อินโดนีเซียกำลังมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์รักษาอธิปไตยของตน และกำลังต่อสู้กับการทำประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ซูซี ปุดจิอัสตูตี รัฐมนตรีกิจการทะเลและการประมงของอินโดนีเซีย กล่าว ขณะที่เธอไปเป็นประจักษ์พยานการจมเรือ 2 ลำในท่าเรืออัมบอน ของจังหวัดมาลูกู
“เราหวังว่า ซิโน (ชื่อของเรือที่ถูกทำลายลำหนึ่ง) จะเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะของเราเหนือการรุกล้ำเข้ามาทำประมง หลังจากช่วงเวลาหลายๆ ปีแห่งความพ่ายแพ้ปราชัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณทางตะวันออกของอินโดนีเซีย” ปุดจิอัสตูตี กล่าว พร้อมกับแสดงความหวังว่าการกระทำเช่นนี้ของทางการอิเหนาจะสามารถป้องปรามพวกลักลอบเข้ามาจับปลาได้
ปุดจิอัสตูได้ประกาศห้ามไม่ให้เรือต่างชาติเข้าไปทำประมงในน่านน้ำอินโดนีเซียทันทีที่เธอเข้าดำรงตำแหน่ง “อำนาจอธิปไตยของรัฐเป็นสิ่งที่จะต้องยืนหยัดปกป้องเอาไว้” เธอประกาศ