เอเอฟพี - อิวองกา ทรัมป์ บุตรสาวคนสวยของผู้นำสหรัฐฯ และ เจเร็ด คุชเนอร์ สามีของเธอ ยังคงได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนมูลค่านับร้อยๆ ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ทั้งคู่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว รายงานด้านจริยธรรมที่ทำเนียบขาวเผยแพร่เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ระบุ
ทำเนียบขาวได้ตีแผ่รายงานความร่ำรวยและสินทรัพย์ทางการเงินของบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ในรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเอกสารดังกล่าวระบุว่า อิวองกา และ เจเร็ด ซึ่งมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาคนสนิทของประธานาธิบดี ยังคงมีรายได้จากการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทซึ่งมีมูลค่าตลาดระหว่าง 240-740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อิวองกา ที่ประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าจะทำหน้าที่ “ผู้ช่วยประธานาธิบดี” โดยไม่รับเงินเดือน ยังคงถือครองหุ้นในโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากทำเนียบขาวเพียงไม่กี่ช่วงตึก
อิวองกา มีหุ้นอยู่ในโรงแรมดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าราว 5-25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงเดือน ม.ค.ปี 2016 จนถึง มี.ค.ปีนี้ เธอมีรายได้จากการปล่อยเช่า หรือค่าสิทธิ (royalties) ประมาณ 1-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมต่างเพ่งเล็งว่าการปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ จะก่อให้เกิด “ผลประโยชน์ทับซ้อน” กับอาณาจักรธุรกิจของเขาเองหรือไม่ ขณะที่นักวิจารณ์บางคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลต่างชาติหรือกลุ่มผลประโยชน์อาจเลือกเข้าพักที่โรงแรมหรูของทรัมป์ เพื่อเอาใจผู้นำสหรัฐฯ
เมื่อไม่นานนี้ ทรัมป์ได้ประกาศตั้งหน่วยงานใหม่ในทำเนียบขาวที่ชื่อ “นวัตกรรมอเมริกัน” เพื่อนำแนวคิดต่างๆ จากโลกธุรกิจมาปรับปรุงยกเครื่องหน่วยงานของรัฐบาล โดยหน่วยงานนี้จะมี คุชเนอร์ ลูกเขยหัวแก้วหัวแหวนของเขาเป็นผู้นำทีม
คุชเนอร์ วัย 36 ปี ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากทรัมป์ ผู้เป็นพ่อตา และมีบทบาทสำคัญในการช่วยกำหนดนโยบายทั้งในและต่างประเทศ
เอกสารของทำเนียบขาวระบุว่า คุชเนอร์ ได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารกว่า 200 บริษัทในเครือธุรกิจของครอบครัวเขา แต่จะยังได้รับผลประโยชน์จากบริษัทหลายแห่งที่เขาเคยเป็นผู้ดูแลร่วมกับบิดา
รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในรัฐบาลที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ประเมินเอาไว้ว่า คณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงน่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์