ส่อนอนคุก! ทูตหญิงมะกันปูดข้อมูลให้ “สายลับจีน” แลกทริป “เที่ยวไทยฟรี”

รอยเตอร์ - ศาลสหรัฐฯ ตั้งข้อหาหนักต่อนักการทูตหญิงชาวอเมริกัน ที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินสินบนหลายหมื่นดอลลาร์ และของกำนัลอีกสารพัดอย่างจาก “สายลับจีน” เพื่อแลกกับการเปิดเผยข้อมูลด้านเศรษฐกิจและการทูตให้จีนรับรู้ อัยการสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (29 มี.ค.)

แคนเดซ แคลบอร์น วัย 60 ปี ถูกศาลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และแจ้งความเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ)

แคลบอร์น เดินทางเข้าให้การต่อผู้พิพากษาศาลแขวงพร้อมกับ เดวิด บอส ทนายของเธอ แต่ยังปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยเธอจะถูกกักบริเวณในบ้านพักจนกว่าจะถึงกำหนดไต่สวดนัดแรกในวันที่ 18 เม.ย.

เอกสารคำฟ้องระบุว่า สายลับจีนได้โอนเงินหลายหมื่นดอลลาร์เข้าบัญชีของแคลบอร์น ตั้งแต่ปี 2011 เพื่อตอบแทนที่เธอให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ มีต่อจีน และข้อมูลด้านการทูตอื่นๆ

อัยการชี้ว่า นักการทูตหญิงและผู้สมคบคิดอีกคนหนึ่งยังได้รับของกำนัลอื่นๆ อีก เช่น ลูกปัด, จักรเย็บผ้า, รองเท้า, ค่าเล่าเรียนที่สถาบันแฟชั่นแห่งหนึ่งในจีน รวมถึงทริปเที่ยวเมืองไทยฟรี

มาร์ก โทเนอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า “เมื่อใดก็ตามที่พนักงานของรัฐต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือก่ออาชญากรรมต่อรัฐที่เป็นการบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชน เราจะตรวจสอบข้อกล่าวหาเหล่านี้อย่างจริงจัง”

การตั้งข้อหาต่อแคลบอร์น มีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะเดินทางเยือนวอชิงตันเพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจกำลังเปราะบางจากปัญหาเกาหลีเหนือ ทะเลจีนใต้ ไต้หวัน และข้อพิพาทการค้า

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีมานี้

แมรี แม็กคอร์ด ผู้ช่วยรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า แคลบอร์น “ไม่ได้รายงานเรื่องที่เธอติดต่อกับสายลับต่างชาติของจีน ซึ่งได้มอบเงินสดหลายหมื่นดอลลาร์ ของกำนัล และผลประโยชน์อื่นๆ ให้แก่เธอ”

แคลบอร์น เริ่มทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในปี 1999 และเคยถูกส่งไปประจำการตามสถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯ ในหลายประเทศ เช่น อิรัก ซูดาน และจีน

หากศาลวินิจฉัยว่ากระทำผิดจริง เธออาจถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี สำหรับความผิดฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และอีก 5 ปี ฐานแจ้งความเท็จต่อเอฟบีไอ