เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีมหาดไทยอินเดีย ราช นาถ สิงห์(Rajnath Singh) ยืนยันตามคำประกาศเจตนารมณ์ในวันเสาร์(25 มี.ค)ว่า นิวเดลีมีแนวความคิดจะสร้างกำแพงปิดพรมแดนถาวรในฝั่งติดประเทศปากีสถานและบังกลาเทศโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่ากว่า 90 % ของพรมแดนอินเดียจะถูกล้อมรั้วไว้แล้วก็ตาม
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(29 มี.ค)ว่า อินเดีย ประเทศในเอเชียใต้ มีแนวคิดสร้างกำแพงปิดพรมแดน 2 ฝั่ง ที่เมื่อคิดรวมแล้ว มีความยาวมากกว่า 2 เท่าของพรมแดนสหรัฐฯติดเม็กซิโก
โดยรัฐมนตรีมหาดไทยอินเดีย ราช นาถ สิงห์ (Rajnath Singh) ยืนยันตามคำประกาศเจตนารมณ์ในวันเสาร์(25 มี.ค) ชี้ว่า ต้องการสร้างกำแพงปิดตายถาวรทั้งหมดในบริเวณพรมแดนที่ติดกับปากีสถานและบังกลาเทศ
ทางนิวเดลีระบุว่า ถึงแม้ในปัจจุบันนี้กว่า 90% ของพรมแดนภารตะนั้นจะถูกล้อมรั้วไว้แล้ว แต่ทว่าทางนิวเดลีชี้ว่า ยังมีกลุ่มก่อการร้ายที่สามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาภายในดินแดนได้สำเร็จ
โดยในแถลงการณ์พิธีการสำเร็จการศึกษาของกองกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพรมแดนอินเดีย สิงห์กล่าวว่า “ทางเราได้ตัดสินใจที่จะปิดพรมแดนระหว่างอินเดียและบังกลาเทศให้เร็วเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมรู้ว่ามีอุปสรรคหลายอย่างเกิดขึ้นในงานนี้ ที่พบว่าบางพื้นที่เป็นภูเขา ในขณะที่บางแห่งอาจเป็นป่าทึบ และบางส่วนเป็นแม่น้ำ”
และในการแถลงของรัฐมนตรีมหาดไทยอินเดียยังระบุต่อว่า “เราจะทำงานอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อปิดพรมแดนระหว่างอินเดียและปากีสถาน”
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ CIA World Factbook พบว่า อินเดียนั้นมีพรมแดนร่วมกับอีก 6 ประเทศ ในระยะความยาวไม่ต่ำกว่า 13,000 ก.ม
ที่พบว่านายกรัฐมนตรีอินเดียนั้นมีความกังวลต่อระยะทางตลอดแนวพรมแดนที่ทางอินเดียมีอยู่ร่วมกับทั้งปากีสถานและบังกลาเทศ ซึ่งบริเวณทางตอนเหนือในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ทั้งในส่วนของอินดียและปากีสถาน มีสงครามมาตั้งแต่ปี 1947
ด้านเค. เอส. ดัตวาเลีย( K.S. Dhatwalia) โฆษกกระทรวงมหาดไทยอินเดียได้เปิดเผยกับ CNN ว่า “ทางอินเดียมีความตั้งใจต้องการสร้างรั้วกั้นปิดบริเวณ “เส้นควบคุม” (line of control) ซึ่งเป็นเส้นพรมแดนระหว่างอินเดียและปากีสถานในเขตแคชเมียร์
ในขณะที่ในทางตะวันออก อินเดียต้องประสบปัญหาการเข้าเมืองผิดกฎหมายไหลทะลักเข้ามาจากบังกลาเทศ โดยนักวิเคราะห์ประจำสถาบัน คาร์เนกี อินเดีย ซานจีฟ ตรีปาฏี(Sanjeev Tripathi) ได้ให้ความเห็นว่า โดยคาดจำนวนพลเมืองบังกลาเทศที่อาศัยอยู่ในอินเดียอย่างผิดกฎหมายน่าจะมีราว 15 ล้านคนในปัจจุบัน
และนิกวิเคราะห์รายนี้ยังกล่าวต่อว่า พรมแดนส่วนใหญ่ที่มีอยู่นั้นถูกทำให้มีความมั่นคงแล้ว และดังนั้นยังคงเหลืออยู่ราว 10 % เท่านั้นที่ยังต้องถูกร้อมรั้ว ตรีปาฏีกล่าว
และเสริมว่า “เป็นพื้นที่ซึ่งยากลำบาก” เขาเสริม และกล่าวต่อว่า รัฐบาลอินเดียวางแผนที่จะให้โครงการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนนี้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2018”
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิจารณ์บางส่วนตังข้อกังขาในคำประกาศของนิวเดลี โดยชี้ว่า บางภูมิประเทศที่เป็นแม่น้ำ หรือเทือกเขาสูงนั้นเป็นการยากที่จะสร้างกำแพงกั้นล้อมได้ โดยในทางตะวันออกที่ติดกับบังกลาเทศนั้น มีพื้นที่ลุ่มน้ำและแม่น้ำอยู่ ส่วนทางตอนเหนือบริเวณแคว้นแคชเมียร์ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขานั้นมีหิมะปกคลุมสีขาวสูง ยากที่จะสร้างกำแพงได้
สื่อ CNN ชี้ว่า ทั้งนี้หลังจากทั้งอินเดียและปากีสถานร่วมลงนามหยุดยิงชั่วคราวต่อปัญหาแคชเมียร์ในปี 2003 ทางฝั่งแดนภารตะได้เริ่มสร้างรั้วแนวลวดสนามตลอดแนว “เส้นควบคุม” ซึ่งเป็นแนวปฎิบัติการทางทหาร และสามารถตัดการไหลทะลักเข้ามาอย่างผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ