xs
xsm
sm
md
lg

InPics: ลือไปทั่วโลก ยานอวกาศหุ่นยนต์ X37-B ของกองทัพสหรัฐฯ บินเหนือโลก แตะระดับวงโคจรมาแล้ว 677 วัน แต่ไม่มีใครรู้เหตุผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – เป็นที่สงสัยไปทั่วโลกเมื่อพบว่า ยานอวกาศโบอิ้งรุ่น X37-B ซึ่งเป็นอากาศยานขับเคลื่อนในลักษณะหุ่นยนต์ไร้มนุษย์บังคับของกองทัพสหรัฐฯ ทุบสถิติลอยอยู่ในอากาศระดับวงโคจรโลกมานาน 677 วัน แต่อเมริกายังคงปิดเงียบ ไม่ตอบคำถามว่า ยานอวกาศแบบไร้มนุษย์ถูกส่งขึ้นไปทำอะไรเหนือชั้นบรรยากาศของโลกใบนี้

สื่อยาฮูนิวส์ อังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(28 มี.ค)ว่า อากาศยานทดสอบการโคจรที่ 4 ( Orbital Test Vehicle 4) หรือที่รู้จักทั่วไปในนาม ยานอวกาศโบอิ้งรุ่น X37-B นั้นอยู่ในระหว่างปฎิบัติภารกิจลับระดับวงโคจรของโลก และมีสิ่งต้องสงสัยปิดเป็นความลับสุดยอดอยู่บนตัวยาน

สื่ออังกฤษชี้ว่า บรรดาผู้สังเกตการณ์ต่างคาดการณ์ว่า ยานหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาให้ขับเคลื่อนโดยไร้มนุษย์บังคับนั้น น่าจะถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่ “ทำลายดาวเทียม” หรือมีหน้าที่เป็น “ดาวเทียมเคลื่อนที่”

และสื่อยาฮูนิวส์ยังชี้ต่อว่า ในการปฎิบัติภารกิจครั้งก่อน พบว่าเมื่อยานอวกาศโบอิ้ง X37-B ร่อนลงสู่พื้นโลกแล้ว มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ภาคพื้นในชุดป้องกันอันตรายจากชีวภาพขั้นร้ายแรงเข้าไปสำรวจยานลำนี้ทันที โดยมีเสียงลือออกมาว่า อากาศยาน X37-B ของกองทัพสหรัฐฯนั้นอาจมี “วัตถแผ่รังสี” อยู่ด้านใน

โดยเดลิเมล สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่า พบว่า ยานอวกาศที่รู้จักในนาม อากาศยานทดสอบการโคจรที่ 4 นั้นทุบสถิติการโคจรอยู่ในอวกาศได้นานถึง 677 วัน โดยสถิตินี้ถูกทำลายตั้งแต่วันเสาร์(25 มี.ค)ที่ผ่านมา โดยสามารถผ่านหลัก 674 วันได้สำเร็จ

เดลิเมล รายงานคล้ายกับยาฮูนิวส์ ที่ว่า ถึงแม้จะมีข้อมูลบางอย่างเปิดเผยออกมาถึง สิ่งที่อยู่ด้านในของตัวยาอวกาศ แต่ทว่า เดลิเมลชี้ว่า ยังคงเป็นการยากที่จะยืนยันถึงภารกิจที่ยานได้รับมอบหมายจากกองทัพสหรัฐฯ หรือสิ่งที่ยานขับเคลื่อนแบบไร้มนุษย์ลำนี้ขนขึ้นสู่ท้องฟ้า

โดยก่อนหน้านี้ องค์การนาซาของสหรัฐฯได้เคยเปิดเผยว่า สิ่งที่อยู่ด้านในส่วนของตู้คาร์โกเป็น “วัตถุทดลองทางวิทยาศาสตร์” ในขณะที่องค์การ แพลนเนตทารี โซไซตี(Planetary Society)ได้ส่งเดโมของโฟตอนเซล (Photon sail) ที่รู้จักในนาม โซลาร์เซล (solar sail) ชื่อไลท์เซล(LightSail) ไปกับยานลำนี้ด้วย

โดยข้อมูลอ้างอิงจากวิกิพีเดียพบว่า โฟตอนเซล เป็นการขับเคลื่อนยานอวกาศแบบหนึ่งที่ใช้ความดันการแผ่รังสี (หรือเรียก แรงดันดวงอาทิตย์) จากดาวฤกษ์เพื่อผลักกระจกที่บางมากขนาดใหญ่ให้มีความเร็วสูง โซลาร์เซลยังสามารถขับเคลื่อนด้วยลำพลังงานเพื่อขยายพิสัยปฏิบัติการ

ยานโซลาร์เซลทำให้ปฏิบัติการกับระยะปฏิบัติการนานเป็นไปได้ เนื่องจากมีส่วนเคลื่อนที่น้อยและไม่มีสารขับเคลื่อน จึงมีศักยภาพใช้ได้หลายครั้งสำหรับส่งสินค้าบรรทุก

และนอกจากนี้ เดลิเมลชี้ว่า ภายในอากาศยานโบอิ้ง X37-B ยังบรรทุกดาวเทียมขนาดจิ๋ว ที่เรียกว่า คิวบ์แซต(CubeSat) ไปอีก 9 ดวงด้วยกัน

แต่อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษรายงานว่า บรรดานักคิดต่างชี้ว่า ยานลำดังกล่าว อาจถูกใช้เป็นได้หลายทาง ตั้งแต่ยานอวกาศทิ้งระเบิด ไปจนถึงยานเพื่อทำลายดาวเทียมจารกรรมของข้าศึก

เดลิเมลรายงานต่อว่า และพบว่าอากาศยานโบอิ้งรุ่น X37-B ลำนี้ถือเป็นหนึ่งในอากาศยานที่ถูกปิดลับมากที่สุดตั้งแต่ทางกองทัพสหรัฐฯได้เคยบินมา

พบว่าเครื่องบินรุ่นนี้เป็นโปรแกรมการทดลองลับของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งในภารกิจล่าสุด ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศไปพร้อมกับกระสวยอวกาศยูไนเต็ด ลอนช์ แอลไลแอนซ์ แอตลาส วี ร็อกเก็ต( United Launch Alliance Atlas V rocket) เมื่อวันที่ 20 พ.ค 2015 ที่ผ่านมา และยังไม่กลับลงมา

ส่วนกำหนดการบินกลับโลก หรือสถานที่ร่อนลงจอดเป็นสิ่งที่ถูกปิดลับเช่นกัน สื่ออังกฤษชี้ โดยเดลิเมลอธิบายว่า กำหนดวันร่อนลงสู่พื้นโลกของยานอวกาศหุ่นยนต์ X37-B นั้นจะถูกประเมิน โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลประมวลผลที่ได้มาจากโปรแกรมสาธิตเกี่ยวกับการโคจรต่างๆและเป้าวัตถุประสงค์ของภารกิจในครั้งนี้ โฆษกกองทัพอากาศสหรัฐฯ แอนนามารี แอนนิเซลลี(Annmarie Annicelli) แถลงกับสื่อออนไลน์ด้านอวกาศ Space.com

“ในขณะที่โปรแกรมนั้นมีความสามารถที่จะเลือกร่อนลงจอดที่ศูนย์อวกาศ จอห์น เอฟ. เคนเนดี KSC ขององค์การนาซา หรือฐานทัพอากาศสหรัฐฯแวนเดนเบิร์ก(Vandenberg) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สถานที่ร่อนลงจอดจะถูกประเมินตามปัจจัยต่างๆ” โฆษกกล่าว

เดลิเมลชี้ต่อว่า อากาศยานบิน X37-B ในภารกิจก่อนๆหน้านี้นั้นพบว่า ได้ทำการร่อนลงจอดที่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯในรัฐ แคลิฟอร์เนีย อ้างอิงจากสื่อ Space.com และเมื่อประเมินเข้ากับแผนการล่าสุดในความเคลื่อนไหวการปล่อยขึ้นสู่อวกาศและการร่อนลงกลับพื้นโลก นั้นอาจหมายความว่า ยานอวกาศอาจเลือกร่อนลงจอดที่ศูนย์อวกาศ จอห์น เอฟ. เคนเนดี KSC ก็เป็นได้

และในการแถลงของแอนนิเซลลี ซึ่งทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการทางสื่อกองทัพอากาศสหรัฐฯประจำเพนตากอนได้ยืนยันว่า “X37 ยังคงบินอยู่ในระดับวงโคจรโลก” และกล่าวต่อว่า “ทางโปรแกรมยังคงทำภารกิจตามปกติประจำสัปดาห์ที่ได้วางไว้”

ทั้งนี้ก่อนหน้าในเดือนกุมภาพันธ์ล่าสุด สื่อ nasaspaceflight.com ได้รายงานว่า ฐานปล่อยจรวดของรัฐฟลอริดาที่มีชื่อเสียง "จะเป็นอีกครั้ง" ที่รับการร่อนลงจอดกลับสู่พื้นโลกครั้งสุดท้ายของยานอวกาศโบอิ้ง X37-B หลังจากภารกิจอยู่ในอวกาศนานเกือบ 2 ปี

และในรายละเอียดของยานอวกาศหุ่นยนต์ของกองทัพสหรัฐฯลำนี้พบว่า โดยอ้างอิงจากผู้สร้างบริษัทโบอิ้ง พบว่า X37-B นั้นปฎิบัติการในวงโคจรระดับต่ำของโลก ระหว่าง 177 ก.ม – 800 ก.ม เหนือโลก เมื่อเทียบกับสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ที่บินในระดับวงโคจร 350 ก.ม

สื่ออังกฤษรายงานในตอนท้ายว่า ยังไม่มีการประกาศออกมาเป็นทางการในขณะนี้ว่า ยานอวกาศ X37-B นั้นจะเสร็จสิ้นภารกิจเมื่อใด แต่มีการเชื่อว่า ยานอวกาศแบบไร้คนขับสุดลึกลับนี้จะกลับสู่พื้นโลกอีกครั้งภายในปีนี้ ที่เชื่อว่าจะร่อนลงจอดที่ศูนย์อวกาศ จอห์น เอฟ. เคนเนดี KSC รัฐฟลอริดา
ยานอวกาศโบอิ้งรุ่น  X37-B
ภาพการบินครั้งที่ 2 ของยานอวกาศโบอิ้งรุ่น OTV-2  จากยูทิวบ์ของบริษัทโบอิ้ง
กองทัพอากาศสหรัฐฯจับภาพอินฟราเรดการเคลื่อนไหวการร่อนลงจอดของยานอวกาศหุ่นยนต์ X37-B
การร่อนลงจอดในวันที่ 3 ธันวาคม 2010 ที่ฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์กสหรัฐฯในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ยานอวกาศโบอิ้งรุ่น  X37-B ถูกจับภาพไว้ได้เหนือขอบฟ้าในปีที่ผ่านมาโดยนักดาราศาสตร์มือสมัครเล่นชาวแอฟริกาใต้ เกร็ก โรเบิร์ตส์(Greg Roberts)








กำลังโหลดความคิดเห็น