เอเอฟพี – รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ของสหรัฐฯจะเข้าร่วมการประชุมพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือในวันศุกร์ (31) พร้อมกับเสนอข้อเรียกร้องจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้เหล่าพันธมิตรเพิ่มการใช้จ่ายด้านความมั่นคง
การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศประจำปีของนาโตในกรุงบัรสเซลส์ถูกเลื่อนเข้ามาในนาทีสุดท้ายหลังจากที่ทิลเลอร์สันเตือนว่า เขาไม่สามารถจะเข้าร่วมในช่วงเวลาตามกำหนดได้
มีรายงานว่าทิลเลอร์สันต้องการจัดเวลาในช่วงต้นเดือนเมษายนให้ว่างเพื่อมีส่วนร่วมในการประชุมซัมมิทระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนที่สนามกอล์ฟ
แต่ทิลเลอร์สันจำเป็นต้องพบกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศชาติพันธมิตรเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมซัมมิทนาโตเต็มคณะครั้งแรกของทรัมป์ในวันที่ 25 พฤษภาคม
และความไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัดของเขาที่จะเข้าร่วมประชุมนาโตมีจุดประสงค์เดียวคือเพื่อเพิ่มความประทับใจที่ทรัมป์แทบไม่ได้สร้างไว้เลยในกลุ่มพันธมิตรเก่าแก่นี้ของสหรัฐฯ
ในเดือนนี้ การตัดสินใจของทรัมป์ที่ว่า พันธมิตรจะต้องจ่ายเงินให้กับวอชิงตันทางใดทางหนึ่งเพื่อให้กองกำลังสหรัฐฯอยู่ในยุโรปต่อไปได้ก่อให้เกิดภาวะมึนตึงในระหว่างการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี อังเกรา แมร์เคิล ของเยอรมนี
“เยอรมนีเป็นหนี้นาโตจำนวนมหาศาลและสหรัฐฯต้องได้รับค่าตอบแทนมากกว่านี้สำหรับการป้องกันที่แข็งแกร่งและแพงหูฉี่ที่เราจัดหาให้กับเยอรมนี” เขาทวีต
ในการปราศรัยระหว่างการหาเสียงตามที่ต่างๆ เมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์ประกาศว่านาโตเป็นองค์กรล้าสมัย แต่หลังจากเข้ารับตำแหน่ง คณะบริหารของเขามีจุดยืนที่เป็นบวกมากขึ้น
ในขณะที่เล่นบทตำรวจเลวตำรวจดี ทรัมป์เรียกร้องเรื่องเงินหลายครั้ง รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนส์ และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จิม แมททิส ยืนกรานว่าสหรัฐฯมีข้อผูกมัดกับนาโต
ทิลเลอร์สันซึ่งตกลงพบกับเพื่อนร่วมตำแหน่งในการประชุมนาโตครั้งแรกของเขาในท้ายที่สุดจะต้องเปลี่ยนทวีตของทรัมป์เป็นกลยุทธ์ทางการทูตเพื่อเสริมความเข้มแข็งให้กับกลุ่มนี้
อดีตนักธุรกิจน้ำมันรายนี้เก็บแผนของเขาเอาไว้ในใจแต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศหลายคนที่พูดโดยขอไม่ให้เผยนามได้สรุปอย่างสั้นๆ ให้กับผู้สื่อข่าว
“เป้าหมายแรกที่ท่านรัฐมนตรีทิลเลอร์สันจะผลักดันคือให้เหล่าพันธมิตรทำข้อตกลงร่วมใหม่ผ่านทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นสำหรับการใช้จ่ายด้านการป้องกันของนาโต” เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง กล่าว
“มันเป็นสิ่งจำเป็นที่พันธมิตรจะต้องเคารพข้อตกลงร่วมกันของพวกเขาจากการประชุมซัมมิทสองครั้งล่าสุดท้ายที่จะจ่ายร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไปกับการป้องกัน” เขาอธิบาย
นอกจากเป้าหมายร้อยละ 2 แล้ว เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ทิลเลอร์สันจะกดดันอย่างหนักให้พันธมิตรใช้ 1 ใน 5 งบประมาณกลาโหมไปกับการสร้างขีดความสามารถทางทหาร
กลุ่มพันธมิตร 28 ชาตินี้ประชุมในเวลส์เมื่อปี 2014 และเห็นพ้องว่า แต่ละชาติจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันสู่เป้าหมายร้อยละ 2 ภายในปี 2020 ทำให้ตอนนี้พวกเขาเหลือเวลาอยู่อีก 7 ปี
