เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เตรียมลงนามคำสั่งบริหารยกเลิก “แผนพลังงานสะอาด” ของรัฐบาลบารัค โอบามา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโรงไฟฟ้าถ่านหินในวันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) ผู้บริหารสำนักงานด้านสิ่งแวดล้อมคนใหม่ของสหรัฐฯ ระบุ
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซีเมื่อวานนี้ (26) สกอตต์ พรูอิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency - EPA) ระบุว่า หากแผนพลังงานสะอาดที่ โอบามา ประกาศไว้เมื่อปี 2015 ถูกยกเลิกก็จะช่วยเพิ่มตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมถ่านหิน
“รัฐบาลชุดที่แล้วมียุทธศาสตร์ต่อต้านพลังงานฟอสซิลเป็นอย่างมาก... และนี่เป็นส่วนหนึ่งของคำสัญญาที่คุณ ทรัมป์ ให้ไว้กับชาวอเมริกันว่าเขาจะส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ”
จอร์จ สเตฟาโนพอลัส พิธีกรของเอบีซี ตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาแรงงานภาคอุตสาหกรรมถ่านหินตกงานเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วภายใต้การบริหารของ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เนื่องจากพลังงานถ่านหินเริ่มถูกแทนที่ด้วยก๊าซธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ พรูอิตต์ ก็ยืนยันว่า ทรัมป์ ไม่ได้ให้สัญญาในสิ่งที่เขาจะทำไม่ได้
“นโยบายนี้จะช่วยสร้างงานในภาคการผลิตทั่วสหรัฐฯ และในอุตสาหกรรมถ่านหินด้วย”
“เป็นเวลานานเหลือเกินแล้วที่สังคมรับเอาความเชื่อที่ว่า ถ้าคุณจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการจ้างงาน คุณก็ต้องไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
พรูอิตต์ ตำหนิรัฐบาลโอบามาว่า “พยายามใช้แผนพลังงานสะอาดมาทำลายตำแหน่งงานในสหรัฐฯ” และอ้างว่าคำสั่งของ ทรัมป์ จะช่วยให้ชาวอเมริกันจ่ายค่าไฟฟ้าถูกลง
พรูอิตต์ เคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคำสั่งของอีพีเอมาแล้วหลายครั้งขณะที่ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดรัฐโอกลาโฮมา ก่อนจะได้รับเลือกโดย ทรัมป์ ให้เข้ามาคุมสำนักงานแห่งนี้เอง
ล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้ พรูอิตต์ ซึ่งเป็นพวกที่ไม่เชื่อทฤษฎีโลกร้อนได้ให้ความเห็นว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแย้งกับสิ่งนักวิทยาศาสตร์ยืนยันมาหลายสิบปี
แผนพลังงานสะอาดของ โอบามา ถูกระงับไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากศาลอุทธรณ์รับพิจารณาข้อโต้แย้งจากบรรดารัฐฐานเสียงรีพับลิกันที่สนับสนุนการใช้พลังงานจากถ่านหิน รวมถึงภาคธุรกิจอีกกว่า 100 บริษัท
แผนงบประมาณที่ ทรัมป์ เสนอเมื่อต้นเดือนนี้ระบุให้มีการตัดงบอุดหนุนแผนพลังงานสะอาด รวมไปถึงโครงการอื่นๆ ที่มุ่งต่อสู้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
คำสั่งของ ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการยกเลิกกฎระเบียบควบคุมไอเสียจากยานพาหนะ อาจทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้ให้สัญญาไว้ขณะร่วมลงนามข้อตกลงภูมิอากาศปารีส เมื่อปี 2015
พรูอิตต์ วิจารณ์ข้อตกลงภูมิอากาศปารีสว่าเป็น “ดีลสุดห่วย” และอ้างว่า ทรัมป์ พยายามที่จะ “ล้มเลิกแนวทางอันขัดต่อกฎหมายที่ โอบามา ได้ทำเอาไว้” และ “แก้ไขเสียใหม่ให้ถูกต้องด้วยการเดินหน้าไปสู่ทัศนคติที่ส่งเสริมการเติบโต และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน”