xs
xsm
sm
md
lg

กองกำลังเคิร์ด-อาหรับยึด “สนามบินทหาร” ใกล้เขื่อนใหญ่ที่สุดในซีเรียคืนจาก IS

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นักรบของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) เดินสำรวจความเสียหายบริเวณพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองร็อกเกาะห์ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.
รอยเตอร์ - กองกำลังพันธมิตรเคิร์ด-อาหรับซึ่งได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯ สามารถขับไล่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) และยึดคืนสนามบินทหารทางตอนเหนือของซีเรียได้สำเร็จเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) โดยสนามบินดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศที่กำลังเสี่ยงต่อการพังทลาย

กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรนานาชาติที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ แถลงยืนยันว่าพวกเขาสามารถยึดฐานทัพอากาศดังกล่าวกลับคืนมาได้แล้ว

ก่อนหน้านั้น ทาลาล ซีโล โฆษกเอสดีเอฟ ระบุว่า กองกำลังของพวกเขาสามารถยึดพื้นที่สนามบินได้ 60-70% แต่ยังเผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากพวกนักรบหัวรุนแรง ทั้งภายในสนามบินและพื้นที่โดยรอบ

เอสดีเอฟ มีหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ คอยช่วยเหลือเพื่อปฏิบัติภารกิจกวาดล้างไอเอสออกไปจากพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียโดยเฉพาะ และไม่ได้ต่อสู้ร่วมกับกลุ่มกบฏอื่นๆ ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

เวลานี้กองกำลังเอสดีเอฟยังคงสู้รบกับพวกไอเอสใกล้ๆ เขื่อนต็อบเกาะห์ (Tabqa) และฐานทัพอากาศอีกแห่งทางตะวันตกของเมืองร็อกเกาะห์ โดยหวังจะบุกยึด “เมืองหลวง” โดยพฤตินัยของไอเอสให้ได้

ชาวซีเรียหลายครอบครัวได้หลบหนีออกจากเมืองต็อบเกาะห์ไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า หลังจากกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ได้ระดมโจมตีทางอากาศอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เขื่อนต็อบเกาะห์ (Tabqa) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองร็อกเกาะห์ทางภาคเหนือของซีเรีย
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอนรายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของฝ่ายสหรัฐฯ ที่เมืองต็อบเกาะห์ และเขตชนบททางตะวันตกของเมืองร็อกเกาะห์ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 90 คน โดย 1 ใน 4 เป็นเด็ก และยังมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อมวลชนของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ระบุว่ากำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงตามรายงานของศูนย์สังเกตการณ์ฯ

สัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่ามีพลเรือนเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใกล้ๆ เมืองร็อกเกาะห์ หลังจากที่ศูนย์สังเกตการณ์ฯ อ้างว่ามีระเบิดตกใส่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่พักพิงสำหรับคนไร้บ้าน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คน

เพนตากอนแถลงเมื่อวันพุธที่แล้ว (22) ว่า สหรัฐฯ ได้ส่งกองกำลังท้องถิ่นภาคพื้นดินเข้าไปที่ด้านหลังแนวรบใกล้ๆ กับเมืองต็อบเกาะห์ เพื่อเตรียมชิงเขื่อนขนาดใหญ่คืนจากไอเอส

กลุ่มติดอาวุธสุหนี่หัวรุนแรงโพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขื่อนต็อบเกาะห์กำลังเสี่ยงพังทลายเนื่องจากถูกโจมตีทางอากาศและระดับน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้เขื่อนได้ถูกปิดใช้งาน และมีการปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดแล้ว

เขื่อนตับเกาะห์ หรือเขื่อนยูเฟรติส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองร็อกเกาะห์ไปทางต้นน้ำราว 40 กิโลเมตร ถูกนักรบไอเอสยึดครองไว้ตั้งแต่ปี 2014

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงเตือนในปีนี้ว่าอาจจะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในซีเรีย หากเขื่อนต็อบเกาะห์มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเกินรับไหว, ถูกจงใจทำลายโดยพวกไอเอส หรือได้รับความเสียหายจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ

กำลังโหลดความคิดเห็น