เอเจนซีส์ - ตำรวจเมืองผู้ดีสรุป “คาลิด มาซูด” ลงมือโจมตีเวสต์มินสเตอร์เพียงคนเดียว ด้วยแรงจูงใจที่อาจไม่มีวันล่วงรู้ได้ อย่างไรก็ตาม สก็อตแลนด์ยาร์ดยังคงจะพยายามสืบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้อาจได้แรงบันดาลใจจากโฆษณาชวนเชื่อทางออนไลน์ของไอเอสที่อวดอ้างว่ามาซูดเป็นทหารของตน หรือมีบุคคลอื่นยุยงส่งเสริมหรือสั่งการเขาหรือไม่
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (25) ตำรวจอังกฤษเปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์โจมตีบนสะพานเวสต์มินสเตอร์และอาคารรัฐสภา นับจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (22) ซึ่งมาซูดสังหารเหยื่อ 4 รายก่อนถูกยิงตาย ซึ่งทั้งหมดนี้กินเวลาเพียง 82 วินาที
หลังจากการสืบสวนอย่างเข้มข้นทั่วอังกฤษและเวลส์นาน 4 วัน และเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หลายร้อยคน สำนักงานใหญ่ตำรวจนครบาลอังกฤษหรือสก็อตแลนด์ยาร์ดยอมรับว่าไม่สามารถระบุแรงจูงใจในการโจมตีครั้งนี้ แต่ยังคงพยายามสืบหาว่ามาซูดได้แรงกระตุ้นจากโฆษณาชวนเชื่อทางออนไลน์ของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่อ้างว่ามาซูดเป็น “ทหาร” ของกลุ่ม หรือมีความคับข้องใจอื่นๆ
นีล บาซู รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสก็อตแลนด์ยาร์ด แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ตำรวจยังเชื่อว่ามาซูดลงมือเพียงคนเดียว และไม่มีข้อมูลหรือข่าวกรองบ่งชี้ว่ามีแผนการโจมตีเพิ่มเติม
ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงอังกฤษไม่ต้องการใช้คำว่า “หมาป่าโดดเดี่ยว” เนื่องจากรู้สึกว่าคำดังกล่าวดูเหมือนยกย่องผู้ก่อเหตุ และเลือกใช้คำว่า “ผู้ก่อเหตุตามลำพัง” แทน
แม้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คนหลังการโจมตี แต่ 9 คนถูกปล่อยตัวแล้วโดยไม่มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม ขณะที่ชายวัย 58 ปีผู้ถูกจับในเบอร์มิงแฮม ยังคงอยู่ในการควบคุมของตำรวจเมื่อวันเสาร์ ส่วนหญิงสาววัย 32 ปีจากแมนเชสเตอร์ได้รับการประกันตัวออกไป
ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนรายงานของสื่อที่ระบุว่ามาซูดอ่านข้อความเข้ารหัสจากวอต์สแอปป์ หรือแม้กระทั่งส่งข้อความก่อนลงมือไม่นาน ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องกับการโจมตี ทว่า แถลงการณ์ของตำรวจที่ยืนยันว่าเขาลงมือคนเดียวดูจะไม่สนับสนุนข้อบ่งชี้ว่าเขาติดต่อกับผู้สมรู้ร่วมคิดแต่อย่างใด
บาซู ซึ่งเป็นผู้ประสานงานอาวุโสแห่งชาติด้านการต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษ ระบุอีกว่า แม้มาซูดเตรียมการเพียงคนเดียว แต่ตำรวจต้องการรู้สาเหตุที่แท้จริงในการโจมตีเพื่อฟื้นความมั่นใจของชาวลอนดอน และให้คำตอบสำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิตและเหยื่อที่รอดชีวิต อย่างไรก็ตาม อาจต้องยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่ข้อเท็จจริงนั้นอาจตายไปพร้อมกับมาซูด
ตำรวจได้ปะติดปะต่อเหตุการณ์และให้รายละเอียดว่าการโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 14.40.08 น. เมื่อรถที่มาซูดเช่ามาพุ่งขึ้นชนคนบนฟุตปาธบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ และกลับลงมาวิ่งบนถนนก่อนพุ่งชนรั้วของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์หรืออาคารรัฐสภาเมื่อเวลา 14.40.38 น.
หลังจากนั้น เขาลงจากรถเมื่อเวลา 14.40.51 น. และถูกตำรวจติดอาวุธ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมอารักขาเซอร์ ไมเคิล ฟอลลอน รัฐมนตรีกลาโหม ยิงเสียชีวิตบนสนามของรัฐสภาเมื่อเวลา 14.41.30 น. โดยมีการโทร.แจ้งเหตุร้ายกับสก็อตแลนด์ยาร์ดครั้งแรกตอนเวลา 14.40.59 น.
บาซูสำทับว่า ตำรวจยังคงสอบสวนคดีนี้และเรียกร้องให้ผู้ที่เคยพูดคุยกับมาซูด โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุ ให้ติดต่อเพื่อให้ข้อมูลกับตำรวจ และตำรวจยังคงพยายามสืบสาวว่ามาซูดได้แรงบันดาลใจจากโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย หรือมีบุคคลอื่นยุยงส่งเสริมหรือสั่งการเขาหรือไม่ ซึ่งหากเป็นอย่างหลัง บุคคลเหล่านั้นจะต้องถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี
รองผู้ช่วยผู้บัญชาการสก็อตแลนด์ยาร์ดยังยกย่องลอนดอนและชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศที่สมัครสมานสามัคคี เพื่อแสดงให้ผู้ก่อการร้ายเห็นว่า ไม่ว่าจะพยายามสร้างความแตกแยกและความเกลียดชังอย่างไร ก็ไม่มีวันทำให้คนอังกฤษแตกกัน
ขณะที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงของอังกฤษกำลังพยายามสืบสาวภูมิหลังของมาซูดนั้น ทางการซาอุดีอาระเบียก็ได้ออกมายืนยันว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้เคยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในซาอุดีฯ ระหว่างปี 2005-2009 และเป็นเรื่องปกติที่คนที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามอย่างมาซูดจะต้องการหางานทำในซาอุดีอาระเบีย