เอเจนซีส์ - ความคืบหน้าล่าสุดโจมตีรัฐสภาอังกฤษ ยังคงเชื่อว่า มือลงมือก่อเหตุ คาลิด มาซูด (Khalid Masood) นั้น ลงมือคนเดียว และไม่มีหลักฐานชี้ไปว่า อาจมีการวางแผนโจมตีจุดอื่น แต่ยอมรับ “อาจจะไม่มีวันรู้ถึงแรงจูงใจก่อเหตุ” ในปฏิบัติการโจมตีกลางสัปดาห์นี้ จากการขับรถโฟร์วีลพุ่งเข้าชนฝูงคน ก่อนจบที่มาซูดถูกยิงเสียชีวิต ใช้เวลาทั้งหมด 82 วินาที
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า รองผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด เนล บาซู (Neil Basu) แถลงในความคืบหน้าคดีโจมตีรัฐสภาอังกฤษ โดยยอมรับว่า “มีความเป็นไปได้ว่า เราอาจจะไม่มีวันได้รู้ถึงแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการลงมือครั้งนี้”
โดยพบว่า ในวันพุธ (22 มี.ค) ในการลงมือก่อเหตุของ คาลิด มาซูด (Khalid Masood) ที่ได้ขับรถเช่าโฟร์วีลพุ่งเข้าชนคนที่อยู่บนสะพานเวสต์มินสเตอร์ ก่อนที่จะใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาอังกฤษจนเสียชีวิต และถูกเพื่อนตำรวจอังกฤษยิงลั่นไกปลิดชีพมาซูดหลังจากนั้น ชายผู้นี้ได้สังหารคนไป 4 คน และบาดเจ็บอีก 50 คน
โดยเจ้าหน้าที่อังกฤษ ยืนยันว่า ในการลงมือของมาซูดทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ 82 วินาทีเท่านั้น แต่กลับสามารถสังหารคนไป 4 คน และทำให้คนอื่นบาดเจ็บได้ถึง 50 คน
ในการแถลง บาซู กล่าวต่อว่า “ทางเรายังคงเชื่อว่า มาซูดลงมือคนเดียวในวันนั้น แต่ไม่มีข้อมูลหรือการข่าวกรองที่จะบ่งชี้ไปในทิศทางที่ว่า ได้มีการวางแผนก่อเหตุตามมาอีกหลังจากนี้”
และกล่าวต่อว่า “ซึ่งถึงแม้ชายผู้นี้จะกระทำการตามลำพังในการวางแผน แต่ทางเราต้องการเริ่มการสอบสวนในสาเหตุการลงมือก่อเหตุ เพื่อต้องการทราบถึงเหตุผลที่ว่าเหตุใดเขาจึงลงมือก่อเหตุอุกอาจนี้ขึ้น เพื่อให้ความมั่นใจต่อชาวลอนดอนทั้งหมด และเพื่อตอบคำถามและทำให้ความทุกข์ของครอบครัวเหยื่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตได้ลดลงจากเหตุโศกนาฏกรรมนี้”
นอกจากนี้ รองผู้ช่วยอธิบดี ยังกล่าวต่อว่า “แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ามาซูดนั้นน่าจะลงมือตามลำพังจากการได้รับแรงบันดาลใจจากการก่อการร้ายข้ามโลก หรือไม่ก็มีบางคน บางกลุ่มยุยง หรือสั่งการชายผู้นี้”
ทั้งนี้ ในวันเสาร์ (25 มี.ค) หนังสือพิมพ์อังกฤษอย่างน้อย 2 ฉบับ รายงานตรงกันว่า รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษ แอมเบอร์ รัดด์ (Amber Rudd) และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ บอริส จอห์นสัน (Boris Johnson) ได้ออกมากดดันไปยังบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ที่รวมไปถึง กูเกิล และ เฟซบุ๊ก ต้องมีความพยายามมากกว่านี้ในการต่อต้านเว็บไซต์ก่อการร้าย