รอยเตอร์ - ตำรวจอังกฤษในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ระบุตัวตนของชายผู้ก่อเหตุสังหารผู้คน 3 ศพใกล้รัฐสภาก่อนถูกยิงเสียชีวิต นามว่า “คาลิด มาซูด” พร้อมเผยเคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญาหลายคดี แต่ไม่เคยกระทำผิดในโทษฐานที่เกี่ยวข้องกับก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจลอนดอนเผยว่าผู้ก่อเหตุคือ นายคาลิด มาซูด วัย 52 ปี เกิดในเมืองเคนท์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน และเพิ่งย้ายเข้ามาพักอาศัยในแถบตอนกลางของอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้
แม้เขาจะมีนามแฝงอื่นๆ มากมาย แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดในโทษฐานที่เกี่ยวข้องกับก่อการร้ายใดๆ “มาซูดไม่ได้อยู่ภายใต้การสืบสวนและไม่มีข่าวกรองล่วงหน้าว่าเขามีความตั้งใจก่อเหตุโจมตีก่อการร้าย” ถ้อยแถลงของตำรวจ
“อย่างไรก็ตาม ตำรวจรู้จักเขามาก่อนและเขาเคยมีประวัติถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานทำร้ายร่างกายหลายคดี ในนั้นรวมถึงประสงค์ให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสทางกาย(grievous bodily harm) เช่นเดียวกับครอบครองอาวุธและความผิดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน” ถ้อยแถลงระบุ
ตำรวจเปิดเผยต่อว่า คดีแรกที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1983 ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และหนสุดท้ายเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2003 โทษฐานครอบครองอาวุธมีด
ความเชื่อมโยงของเขากับแถบตอนกลางของอังกฤษ สอดคล้องกับรายงานข่าวที่ระบุว่ารถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุถูกเช่ามาจากบริษัทรถเช่าเอนเตอร์ไพรส์ สาขาในเบอร์มิงแฮม
พวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีผ่านถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวอามัก อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนของนักรบกลุ่มนี้ไม่ได้ระบุชื่อผู้ก่อเหตุว่าคือมาซูดและไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ ดังนั้นจึงไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามือโจมตีมีความเกี่ยวข้องกับพวกญิฮาดกลุ่มนี้จริงหรือไม่
เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางเยี่ยมและพูดคุยกับเหยื่อเหตุโจมตีที่โรงพยาบาลในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) หลังจากก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เธอบอกกับรัฐสภาว่าครั้งหนึ่งคนร้ายเคยถูกตรวจสอบโดยหน่วยข่าวกรอง MI5 จากความกังวลเกี่ยวกับพวกนิยมความรุนแรง แต่ทางการมองว่าเขาเป็นบุคคลที่ไม่สำคัญ
ในช่วง 5 นาทีแห่งความโกลาหลใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อวันพุธ (22 มี.ค.) มาซูดขับรถข้ามสะพานเวสมินสเตอร์ ระหว่างนั้นก็หักเลี้ยวพุ่งชนคนเดินถนน จากนั้นเขาก็วิ่งผ่านประตูอาคารรัฐสภาที่อยู่ใกล้ๆ และลงมือแทงตำรวจที่ปราศจากอาวุธนายหนึ่ง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต
ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 8 คนจากสถานที่ต่างๆ 6 แห่งในกรุงลอนดอนและในเมืองเบอร์มิงแฮม เพื่อนำตัวมาสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้นในตอนบ่ายวันพุธ (22) โดยคนร้ายกระทำการเพียงคนเดียวแบบ “หมาป่าผู้โดดเดี่ยว” และนายกรัฐมนตรีระบุในคำแถลงส่งถึงรัฐสภาว่า ผู้ก่อเหตุได้รับแรงบันดาลใจจากอุดมการณ์อิสลามที่ถูกบิดเบือน
บริษัทรถเช่าเอนเตอร์ไพรส์ยอมรับว่ารถที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นรถที่เช่ามาจากสาขาสปริง ฮิลล์ ในเบอร์มิงแฮม ซึ่งตั้งอยู่ในเวสต์มิดแลนด์ส “พนักงานจำรถยนต์ได้หลังเห็นแผ่นป้ายทะเบียนผ่านภาพถ่ายบนสื่อสังคมออนไลน์ จากนั้นเราได้ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง และได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ในทันที” โฆษกระบุ
เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย รวมถึงผู้ก่อเหตุ และผู้บาดเจ็บราว 40 คน โดยที่ 29 คนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และ 7 คนในจำนวนนี้มีอาการสาหัส
ในส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นพลเมืองจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ 12 คน, ฝรั่งเศส 3 คน, โรมาเนีย 2 คน, เกาหลีใต้ 4 คน, เยอรมนี 1 คน, โปแลนด์ 1 คน,อเมริกา 1 คน และกรีซ 2 คน ส่วนที่เหลือยังไม่สามารถยืนยันได้
สะพานเวสต์มินสเตอร์และพื้นที่โดยรอบรัฐสภายังคงถูกปิดกั้นในตอนเช้าวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) เปิดทางให้คณะสืบสวนนิติเวชตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่สะพานจะกลับมาเปิดให้สัญจรผ่านไปมาได้ในช่วงบ่าย