เอเอฟพี - อัยการสหรัฐฯ สงสัย “เกาหลีเหนือ” อาจอยู่เบื้องหลังกลุ่มแฮกเกอร์ที่ปล้นเงิน 81 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,800 ล้านบาท) ออกไปจากบัญชีของบังกลาเทศในธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก หรือ “นิวยอร์ก เฟด” เมื่อปีที่แล้ว สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (22 มี.ค.)
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อซึ่งระบุว่า อัยการสหรัฐฯ ตรวจสอบพบว่ามีชาวจีนทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ช่วยเหลือรัฐบาลโสมแดงปล้นเงินจำนวนมหาศาลออกไปจากบัญชีของธนาคารกลางบังกลาเทศ
เมื่อเดือน ก.พ.ปี 2016 อาชญากรไซเบอร์ได้ยักย้ายเงินทุนที่ธนาคารกลางบังกลาเทศฝากไว้กับ นิวยอร์ก เฟด เข้าไปยังบัญชีเงินฝากหลายบัญชีในฟิลิปปินส์ โดยกระทำผ่านระบบ SWIFT และไม่ได้มีการโจมตีระบอบคอมพิวเตอร์ของ นิวยอร์ก เฟด โดยตรง
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และนิวยอร์ก เฟด ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์เนิล
นิวยอร์ก เฟด เคยออกมาแถลงหลายครั้งเกี่ยวกับคดีนี้ในปีที่แล้ว รวมถึงมีคำแถลงร่วมกับธนาคารกลางบังกลาเทศและผู้ให้บริการ SWIFT โดยรับปากจะนำเงินที่ถูกปล้นคืนให้แก่รัฐบาลธากาให้ได้ และจะปรับปรุงระบบเบิกจ่ายเงินออนไลน์ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
คำแถลงฉบับหนึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ “รู้สึกกังวลเกี่ยวกับเหตุปล้นเงินที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจะประสานไปยังทุกฝ่ายเพื่อนำเงินทั้งหมดกลับคืนมาอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของต่างชาติ รวมถึงสนับสนุนความพยายามระดับนานาชาติที่จะปกป้องระบบการเงินโลกไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีในลักษณะนี้อีก”
อย่างไรก็ตาม นิวยอร์ก เฟด ยังไม่ตอบคำขอสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่พยายามติดต่อไปถามความคืบหน้าของคดีนี้
นักวิจัยจากบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ไซแมนเทค (Symantec) เคยตั้งข้อสังเกตว่า เหตุปล้นเงินบังกลาเทศอาจมีความเชื่อมโยงกับการแฮกข้อมูลสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง รวมไปถึงการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท โซนี่ พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์ เมื่อปี 2014