เอเอฟพี - ซากเรือเฟอร์รี “เซวอล” ของเกาหลีใต้ถูกยกขึ้นสู่ผิวน้ำได้สำเร็จในเช้าวันนี้ (23 มี.ค.) หลังผ่านไปนานเกือบ 3 ปีที่เรือลำนี้ประสบอุบัติเหตุอับปางกลางทะเล พร้อมกับชีวิตผู้โดยสารกว่า 300 คน ซึ่งนับเป็นโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์แดนโสมขาว
ภาพจากสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นเรือเฟอร์รีสีขาว-น้ำเงิน น้ำหนัก 6,825 ตัน โผล่พ้นน้ำขึ้นมาระหว่างเรือท้องแบนขนาดใหญ่ 2 ลำของบริษัทจีนที่รับสัมปทานกู้ซากเรือ
ภารกิจอันยุ่งยากซับซ้อนในการกู้ซากเซวอลสำเร็จลุล่วงในที่สุด ก่อนจะถึงวาระครบรอบ 3 ปีที่เรือลำนี้จมลงกลางทะเลนอกชายฝั่งเกาะจินโดของเกาหลีใต้ เมื่อเช้าวันที่ 16 เม.ย.ปี 2014
ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้นมัธยมของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จะเดินทางไปทัศนศึกษายังเกาะเชจู และหลายคนเชื่อว่าอีก 9 ศพที่ยังสูญหายน่าจะติดอยู่ภายในตัวเรือ
ครอบครัวผู้สูญหายยืนยันว่าต้องการให้เรือลำนี้ถูกกู้ขึ้นมาในสภาพสมบูรณ์ที่สุด หลายคนได้ขึ้นเรือไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ในขณะที่เรือเซวอลกำลังถูกดึงขึ้นจากก้นทะเล
“ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เมื่อได้เห็นเรือเซวอลอีกครั้ง” ฮูห์ ฮอง-ฮวาน คุณพ่อซึ่งรอคอยที่จะพบศพลูกสาววัย 16 ปี ให้สัมภาษณ์
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เขากับภรรยายังคงปักหลักรอฟังข่าวอยู่ที่เกาะจินโด เช่นเดียวกับญาติของผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ยังสูญหาย
“มันนานเหลือเกินแล้ว” เขากล่าว
ลี กึน-ฮุย ผู้ปกครองนักเรียนที่สูญหายอีกคนหนึ่ง วิงวอนให้สังคมช่วยกันสวดมนต์ภาวนาให้เรือเซวอลถูกยกขึ้นมาในสภาพสมบูรณ์ และให้มีการสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างโปร่งใส “เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ซ้ำอีก”
ญาติผู้สูญหายคนอื่นๆ ได้ขึ้นไปยืนสังเกตการณ์อยู่ที่แคมป์บนเนินเขาที่เกาะดองเกียวชาโด (Donggeochado) ซึ่งห่างจากจุดที่เรือจมไปเพียง 1.5 กิโลเมตร
สถานีโทรทัศน์เกาหลีใต้เผยภาพคนงานกู้ซากเรือสิบกว่าคนขึ้นไปยืนอยู่บนลำตัวเรือเซวอลที่โผล่พ้นน้ำ
“คนงานได้ขึ้นไปบนเรือเซวอลเพื่อผูกโยงมันเข้ากับเรือท้องแบน” กระทรวงทางทะเลเกาหลีใต้แถลงผ่านอีเมล
บริษัทจีนต้องใช้แรงงานถึง 450 คนในการกู้ซากเรือเซวอล ซึ่งเวลานี้มีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 8,000-8,500 ตัน เนื่องจากมีดินตะกอนเข้าไปสะสมอยู่ภายใน
หากเรือเซวอลลอยขึ้นมาพ้นน้ำถึง 2 ใน 3 คนงานก็จะนำเรือบรรทุกแบบกึ่งจมน้ำ (semi-submersible) สอดไว้ข้างใต้เพื่อยกซากเรือขึ้น และส่งไปยังท่าเรือเมืองม็อกโปเพื่อตรวจสอบและค้นหาร่างผู้โดยสารที่ยังสูญหายต่อไป
“เราเชื่อว่าคงจะต้องใช้เวลาประมาณ 12-13 วัน กว่าจะยกเรือและส่งกลับไปถึงเมืองม็อกโปได้” ลี ชอล-โจ เจ้าหน้าที่กระทรวงทางทะเลซึ่งรับผิดชอบงานกู้ซากเรือเซวอล ให้สัมภาษณ์
ปฏิบัติการกู้ซากเรือเซวอลซึ่งจมอยู่ที่ความลึกกว่า 40 เมตรนอกชายฝั่งเกาะจินโดทางตะวันตกเฉียงใต้ ถูกเลื่อนมาหลายครั้งตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
หายนะทางทะเลครั้งนี้ยังคงทิ้งบาดแผลไว้ในความทรงจำของชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ และทำให้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ถูกติเตียนอย่างหนักเรื่องปฏิบัติการกู้ภัยที่ไร้ประสิทธิภาพ
สังคมยังคงตั้งคำถามว่าเหตุใดวันนั้น พัค จึงเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพักเป็นเวลานานถึง 7 ชั่วโมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรีบแจ้งรายงานความคืบหน้าของปฏิบัติการกู้ภัยให้เธอทราบ และรอคอยคำสั่งจากประธานาธิบดี
พัค ไม่เคยเปิดเผยว่าเธอกำลังทำอะไรในขณะนั้น จนเกิดข่าวลือว่าผู้นำหญิงแอบพบใครบางคนอยู่ หรือไม่ก็ทำศัลยกรรมเสริมความงาม
ผลการสอบสวนสรุปว่า โศกนาฏกรรมเรือเซวอลเกิดจาก “ฝีมือมนุษย์” เป็นสำคัญ เช่น การนำเรือไปดัดแปลงอย่างผิดกฎหมาย บรรทุกน้ำหนักเกิน ลูกเรือขาดประสบการณ์ และอาจมีการเอื้อประโยชน์ระหว่างผู้ประกอบการเดินเรือกับผู้ตรวจสอบของรัฐด้วย
แม้จะมีเวลานานถึง 3 ชั่วโมงก่อนที่เรือจะจมลงทั้งลำ แต่ผู้โดยสารที่รอดชีวิตยืนยันว่า พวกเขาไม่ได้ยินคำสั่งให้อพยพ อีกทั้งลูกเรือและกัปตันยังเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่หนีเอาตัวรอด
ลี จุนซ็อก กัปตันเรือเซวอลซึ่งทอดทิ้งผู้โดยสารไว้บนเรือ ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในความผิดฐาน “ฆ่าคนตายจากการจงใจละเลยหน้าที่” ส่วนลูกเรืออีก 14 คนก็ถูกจำคุกระหว่าง 2-12 ปี