ทาสส์นิวส์ - สื่อแดนหมีขาวอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรอสเทค กลุ่มอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซียที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ (22 มี.ค.) ว่าไทยกำลังแสดงความสนใจในยานยนต์หุ้มเกราะผลิตโดยมอสโก ขณะที่การเจรจาส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ Mi-17V5 อยู่ในขั้นสุดท้าย
“ผมไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้สำหรับความร่วมมือในสนามของยานยนต์หุ้มเกราะ เนื่องด้วยไทยกำลังแสดงความสนใจมันอย่างมาก” วิคเตอร์ คลาดอฟ ประธานคณะผู้แทนร่วมของรอสเทคและทรอสโซบอโรเน็กซ์พอร์ต ผู้ส่งออกอาวุธในสังกัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยระหว่างร่วมงานนิทรรศการกำลังทางเรือและการบินนานาชาติ Langkawi International Maritime & Aerospace Exhibition 2017 ในมาเลเซีย
คลาดอฟอ้างด้วยว่าไทยยังแสดงความสนใจในยุทโธปกรณ์อื่นๆ ของรัสเซีย โดยเฉพาะระบบป้องกันทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ Mil Mi-17, เครื่องบินขับไล่ Yakovlev Yak-130, ซุคอย ซู-30 และ Beriev Be-200
เขากล่าวต่อว่าสถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป “มีอุปสรรคทางจิตวิทยาอยู่บ้างในไทย ทหารบางส่วนผ่านการฝึกฝนในสถาบันสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยกำลังแสดงความสนใจในยุทโธปกรณ์ของรัสเซียอย่างมาก เพราะสินค้าของรัสเซียไม่ใช่แค่มีคุณภาพดีเท่ากับที่ผลิตโดยสหรัฐฯ แต่ยังถูกกว่าและเชื่อถือได้มากกว่า”
การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัสเซียใกล้ประสบความสำเร็จในการส่งมอบซูคอย ซูเปอร์เจ็ต SSJ-100 ครบทั้ง 3 ลำแก่กระทรวงกลาโหมของไทย “จนถึงตอนนี้มีการส่งมอบเครื่องบินแล้ว 2 ลำ ส่วนลำที่ 3 จะมีการส่งมอบตามสัญญา” คลาดอฟระบุ
เขาบอกด้วยว่าสายการบินของไทยบางแห่งก็แสดงความสนใจที่จะซื้อเครื่องบินซูเปอร์เจ็ตรุ่นนี้เช่นกัน “เรื่องนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับฝ่ายไทย”
นอกจากนี้ ทาสส์นิวส์ยังอ้างแหล่งข่างวงในของหน่วยงานความร่วมมือทางเทคนิคทหารของรัฐบาลกลางรัสเซีย ระบุว่าอาจมีการลงนามจัดหาเฮลิคอปเตอร์ Mil Mi-17V-5 แก่ไทยอีกชุดในเร็วๆ นี้ “การเจรจาส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง Mi-17V-5 แก่ไทย อยู่ในขั้นสุดท้าย มีความเห็นพ้องในร่างสัญญาแล้ว เราหวังว่าจะมีการลงนามในสัญญาในอนาคตอันใกล้นี้”
กองทัพไทยเคยจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ Mi-17V-5 ของรัสเซียมาแล้ว ขณะที่สื่อมวลชนบางแห่งระบุว่ากรุงเทพฯ แสดงความพึงพอใจต่อศักยภาพของมัน และตัวแทนของไทยแสดงความตั้งใจว่าจะซื้อเพิ่มเติม รายงานของทาสส์นิวส์ระบุ