รอยเตอร์ - รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 68 ชาติ จะมาประชุมร่วมกันที่วอชิงตันในวันพุธ (22 มี.ค.) เพื่อหารือกันเรื่องการปราบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) นับเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวกันของแนวร่วมพันธมิตรที่มีอเมริกาเป็นผู้นำ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นสู่อำนาจ
การประชุมครั้งนี้จะมีรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน” เป็นเจ้าภาพ ส่วนทรัมป์นั้นเคยรับปากไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะยกเรื่องการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสให้เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ รวมถึงสั่งการต่อเพนตากอนและหน่วยงานอื่นๆ เมื่อเดือนมกราคม ให้เสนอแผนปราบกลุ่มไอเอสมาให้พิจารณา
ปัจจุบันกลุ่มไอเอสได้สูญเสียดินแดนทั้งในอิรักและซีเรีย ทั้งยังถูกโจมตีจาก 3 กองกำลังที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งแต่ละกองกำลังนั้นได้รับการหนุนหลังจากอเมริกา ตุรกีและรัสเซีย กองกำลังเหล่านั้นกำลังรุกสู่รอกเกาะห์ซึ่งเป็นฐานที่มั่นในซีเรียของไอเอส
นับเป็นการประชุมครั้งแรกของแนวร่วมพันธมิตรนานาชาติ หลังจากในปีที่แล้วกองกำลังอิรักที่แนวร่วมพันธมิตรให้การหนุนหลัง สามารถชิงหลายเมืองในอิรักกลับคืนมาจากกลุ่มไอเอส ทั้งยังสามารถปลดปล่อยฝั่งตะวันออกของเมืองโมซุลไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มไอเอสที่มีจำนวนน้อยกว่ากองกำลังอิรัก ได้พยายามใช้ระเบิดฆ่าตัวตายแบบคาร์บอมบ์ รวมถึงใช้พลซุ่มยิง เพื่อทำการป้องกันที่มั่นในฝั่งตะวันตกของโมซุล
นายกรัฐมนตรีอิรัก “ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี” ที่เพิ่งพบกับทรัมป์ในวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า เขาได้การรับประกันว่าจะมีการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นจากสหรัฐฯ ในการทำสงครามกับกลุ่มไอเอส
คำแถลงของทำเนียบขาวหลังจากทั้งคู่พบกัน ระบุว่า ทั้งทรัมป์และอาบาดีนั้นเห็นพ้องกันว่าไม่อาจใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียวในการเอาชนะผู้ก่อการร้าย ผู้นำทั้งสองยังเรียกร้องให้มีการผูกสัมพันธ์ทางการค้าที่ลึกซึ้งมากขึ้นด้วย
การหารือในที่ประชุมแนวร่วมพันธมิตรปราบไอเอส จะเน้นไปที่เรื่องเกี่ยวกับว่าจะช่วยบูรณะเมืองโมซุลอย่างไร รวมถึงพวกวิธีรับมือปฏิบัติการของกลุ่มไอเอสในลิเบียและที่อื่นๆ
สำหรับที่ซีเรีย แนวร่วมพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกับกองกำลังเคิร์ดและอาหรับ ซึ่งขณะนี้เน้นไปที่การโอบล้อมเพื่อจะยึดเมืองรอกเกาะห์ให้ได้ในท้ายที่สุด ทั้งนี้ เมืองดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มไอเอสในซีเรีย