รอยเตอร์ - พัค กึน-ฮเย อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกถอดพ้นจากตำแหน่ง กล่าวขอโทษประเทศในวันอังคาร(21มี.ค.) ระหว่างเดินทางถึงสำนักงานอัยการเพื่อให้ปากคำในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีคอรัปชันอื้อฉาว
พัค วัย 65 ปี กลายเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยรายแรกของเกาหลีใต้ ที่ถูกปลดจากตำแหน่ง หลังในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษายืนตามรัฐสภาที่มีมติถอนถอนเธอพ้นจากเก้าอี้เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
เธอถูกกล่าวหาสมรู้สมคิดกับเพื่อนหญิง ชอย ซุน-ซิล กดดันพวกธุรกิจยักษ์ใหญ่ให้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิ 2 แห่ง ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายของพัค ขณะที่ พัค และชอย ต่างยืนกรานว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
"ฉันขอโทษประชาชน ฉันจะให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ" พัค กล่าวกับสื่อมวลชนบริเวณบันไดทางขึ้นของอาคารสำนักงานอัยการ นับเป็นถ้อยคำที่เธอพูดถึงสาธารณชนโดยตรงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ถูกปลดจากตำแหน่ง
จนถึงตอนนี้ พัค ยังไม่ถูกตั้งข้อหา แต่เธอมีสิทธิ์ติดคุกมากกว่า 10 ปี หากว่าโดนตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบนจากพวกผู้บริหารของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ ในนั้นรวมถึงเจย์ วาย. ลี ผู้นำรุ่นที่ 3 ของซัมซุง
หลังการสอบปากคำ 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า พัค เต็มใจให้ข้อมูล แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดว่าเธอถูกสอบถามเรื่องใดบ้าง และเธออาจถูกตั้งข้อหาใด
ชะตากรรมของพัคและการสืบสวนคดีคอรัปชันที่ขยายวงขึ้นเรื่อยๆ ได้ห้อมล้อมประเทศแห่งนี้ ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือและจีนกำลังคุกรุ่น
พวกผู้สนับสนันของพัคหลายร้อยคน รวมตัวกันโบกธงอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของเธอในย่านกังนัมของกรุงโซล จากนั้นในเวลาต่อมาก็ไปชุมนุมกันที่บริเวณด้านนอกสำนักงานอัยการ
พัค เดินทางมาพร้อมกับทนายความ 2 คน และทางสำนักงานอัยการได้เสิร์ฟชา ก่อนการสอบปากคำในช่วงแรกที่ดำเนินการโดยอัยการ 2 คนและเจ้าหน้าที่สืบสวน 1 คน
คณะอัยการเปิดเผยว่า พัค ไม่ยอมให้บันทึกวิดีโอการสอบปากคำ และคาดหมายว่าการสอบปากคำจะยืดเยื้อไปจนถึงตอนกลางคืน โดยหนึ่งในทนายความของเธอ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า พัค จะเลือกว่าจะยอมให้สอบปากคำเลยเวลาเที่ยงคืนหรือไม่
อัยการมีสิทธิ์ที่จะกักตัวเธอไว้ แต่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พัค จะกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ แต่เขาปฏิเสธยืนยันว่าเธอจะถูกเรียกตัวมาให้ปากคำอีกหรือไม่ หรือจะมีการยื่นขอให้ศาลอนุมัติหมายจับเธอหรือเปล่า
เรื่องอื้อฉาวนี้กัดเซาะเสียงสนับสนุนพรรคคอนเซอร์เวทีฟของพัค โดยจากผลการสำรวจความคิดเห็นของโพลหลายสำนักพบว่า มูน แจ-อิน นักการเมืองฝ่ายค้าน มีคะแนนนิยมนำอยู่ และถูกคาดหมายว่าจะได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 9 พฤษภาคม
ฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านพัค จัดชุมนุมในกรุงโซลมานานหลายเดือน แต่ตำรวจบริการจัดการให้พวกเขาอยู่ห่างจากกัน และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่าย