xs
xsm
sm
md
lg

เอฟบีไอเผยกำลังสอบสัมพันธ์ทรัมป์-มอสโก หักหน้าทำเนียบขาวชี้ไร้หลักฐานถูกดักฟัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจมส์ โคมีย์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) , พลเรือเอก ไมค์ โรเจอร์ส (ขวา) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาคองเกรส
เอเจนซีส์ – ผู้อำนวยการเอฟบีไอหักหน้าทรัมป์ ด้วยการยืนยันเป็นครั้งแรกว่า กำลังสอบสวนหาความเชื่อมโยงระหว่างทีมหาเสียงของประมุขทำเนียบขาวกับรัสเซีย รวมทั้งระบุว่าไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาของทรัมป์เรื่องถูกโอบามาดักฟัง

เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ยืนยันระหว่างการให้ปากคำต่อรัฐสภาที่มีการถ่ายทอดสดทางทีวีเมื่อวันจันทร์ (20) ระบุเอฟบีไอกำลังตรวจสอบว่า บรรดาผู้ช่วยของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สมคบคิดกับรัสเซียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่แล้วหรือไม่

คำแถลงของโคมีย์เท่ากับเป็นการทิ้งระเบิดใส่ทำเนียบขาวที่พยายามปฏิเสธและโจมตีกลับว่า ข่าวสัมพันธ์โยงใยระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับเครมลินเป็น “ข่าวปลอม”

อย่างไรก็ตาม นายใหญ่เอฟบีไอปฏิเสธตอบคำถามของคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรที่ว่า การสอบสวนมุ่งที่เรื่องใดและมีใครเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนการต่อต้านข่าวกรองที่มีความอ่อนไหว แต่ยืนยันว่า การสอบสวนดังกล่าวครอบคลุมลักษณะความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงของทรัมป์และรัฐบาลรัสเซีย รวมถึงประเด็นที่ว่ามีการร่วมมือระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับรัสเซียหรือไม่

โคมีย์ยังทิ้งระเบิดลูกที่สองใส่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันว่า กระทรวงยุติธรรมไม่มีข้อมูลสนับสนุนข้อความทางทวิตเตอร์ของทรัมป์เมื่อต้นเดือนที่กล่าวหาว่า อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามาจากพรรคเดโมโครต สั่งให้เจ้าหน้าที่ติดเครื่องดักฟังที่อาคาร "ทรัมป์ ทาวเวอร์" ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานและที่พักของทรัมป์

ขณะนี้ มีคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ อย่างน้อย 4 ชุด เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับความพยายามของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่บรรดาผู้นำหน่วยงานด้านข่าวกรองอเมริการะบุเมื่อเดือนมกราคมว่า เป็นคำสั่งจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน มีเป้าหมายสนับสนุนทรัมป์ให้เอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากเดโมแครต

พรรคเดโมแครตเองเชื่อว่า การแทรกแซงดังกล่าว โดยการที่รัสเซียเจาะระบบของพรรคและส่งข้อมูลให้วิกีลีกส์เผยแพร่ เป็นสาเหตุที่ทำให้คลินตันพ่ายแพ้

ในการให้การเมื่อวันจันทร์ ทั้งโคมีย์และไมค์ โรเจอร์ส ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ยืนยันว่าอย่างน้อยที่สุดจนถึงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่เชื่อว่าปูตินเกลียดคลินตัน
โคมีย์ยังยืนยันด้วยว่าประมุขเครมลินไม่เพียงต้องการให้อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผู้นี้พ่ายแพ้ แต่ยังต้องการให้ทรัมป์ชนะด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่โคมีย์ไม่เต็มใจแสดงความคิดเห็นแบบเฉพาะเจาะจง หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานของสื่อที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ เรื่องผู้ช่วยของทรัมป์ติดต่อกับหน่วยข่าวกรองมอสโก ทำให้ฌอน สไปเซอร์ สบช่องอวดอ้างว่าเจ้าหน้าที่อาวุโสหน่วยงานด้านข่าวกรองไม่มีหลักฐานยืนยันเรื่องทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับเครมลิน

แม้โคมีย์ยืนยันไม่พบหลักฐานเรื่องการดักฟัง แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทรัมป์จะขอโทษโอบามาหรือไม่ สไปเซอร์กลับตอบว่า การสอบสวนเรื่องนี้ยังคงดำเนินอยู่

นอกจากนี้ เดวิน นูเนส ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาล่างจากพรรครีพับลิกัน ยังออกมาแก้ต่างอีกแรงว่า แม้ไม่มีหลักฐานเรื่องการดักฟังที่ทรัมป์ทาวเวอร์ แต่ยังมีความเป็นไปได้ว่า มีความพยายามสอดแนมอื่นๆ ต่อทรัมป์และผู้ช่วย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกทรัมป์อ้างรายงานจากสื่อว่า หน่วยข่าวกรองอังกฤษอยู่เบื้องหลังการสอดแนมเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ สร้างความขบขันให้บรรดาผู้นำในลอนดอนอย่างมาก

ในส่วนทรัมป์เองนั้นได้ทวิตก่อนที่โคมีย์และโรเจอร์สให้การในสภาว่า เดโมแครตพยายายามปั้นเรื่องรัสเซียเพื่อใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแคมเปญหาเสียงห่วยแตกของพรรค

การให้การของสองเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรองและความมั่นคงเมื่อวันจันทร์ตอกย้ำว่า ประเด็นการแทรกแซงของรัสเซียจะยังคงตามรังควานคณะบริหารของทรัมป์ต่อไป โดยคณะกรรมาธิการข่าวกรองทั้งสภาสูงและสภาล่างจะเปิดการไต่สวนสาธารณะรวมถึงการให้การแบบปิดลับในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีทั้งโคมีย์, โรเจอร์ส และหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองคนอื่นๆ ไปให้การ

ถึงกระนั้น อดัม ชิฟฟ์ สมาชิกอาวุโสพรรคเดโมแครตและหนึ่งในคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนฯ ก็เสนอให้ตั้งคณะทำงานอิสระเพื่อป้องกันไม่ให้ทำเนียบขาวและรีพับลิกันขัดขวางการสอบสวน

ชิฟฟ์ยังแจกแจงกิจกรรมของเหล่าผู้ช่วยทรัมป์ที่มีความสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการแคมเปญหาเสียง และไมเคิล ฟลินน์ ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากดอดไปคุยกับเอกอัครราชทูตรัสเซียตั้งแต่ทรัมป์ยังไม่เข้ารับตำแหน่ง ซ้ำเล่าความเท็จจนทำให้รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ เข้าใจผิดและออกมาปกป้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น