เอเจนซีส์ – ซามาตา อุลลาห์(Samata Ullah) สมาชิกก่อการร้าย IS สัญชาติอังกฤษวัย 34 ปี ถูกจับกุมในวันที่ 22 ก.ยล่าสุด พร้อมของกลาง ยูเอสบีแฟลชไดร์ฟข้อมูลที่ถูกออกแบบเป็น “คัฟลิงค์” หรือกระดุมข้อมือสูท สำหรับการซ่อนข้อมูลไฟล์ก่อการร้าย คล้ายกับที่สายลับเจมส์ บอนด์ 007 เคยใช้
เดลีเทเลกราฟต์ สื่ออังกฤษ และสื่ออื่นๆรายงาน เป็นที่น่าสนใจว่า “คัฟลิงค์” หรือกระดุมข้อมือสูทชาย ที่เป็นยูเอสบีแฟลชไดร์ฟข้อมูลจำนวนร่วม 30 คู่นี้ถูกออกแบบให้รันด้วยระบบปฎิบัติการเปิดลินุกซ์ ของกลางที่ถูกพบภายในบ้านของนักรบไซเบอร์ออทิสติกของกลุ่ม IS ในคาร์ดิฟ( Cardiff) อังกฤษ สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ทางกลุ่มก่อการร้ายไว้
ซึ่งในการจับกุมตัวเมื่อวันที่ 22 ก.ยล่าสุด ซามาตา อุลลาห์(Samata Ullah)วัย 34 ปี ชาวอังกฤษ ได้เสนอตัวในการใช้ความเชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์ให้เป็นประโยชน์ต่อกองทัพไซเบอร์คอลิฟะห์ (Cyber Caliphate Army)ของก่อการร้าย IS โดยพบว่าทางกลุ่มขึ้นชื่อในเรื่องการจารกรรมทางไซเบอร์ในนามของกลุ่มก่อการร้าย
ในการจับกุมที่บ้านพักในช่วงปลายเดือนกันยายน 2016 พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังค้นพบ ***คู่มือขั้นพื้นฐานจรวดมิสไซล์แบบควบคุมทิศทาง (Guided Missiles Fundamentals AFM 52-31 ) และอีบุ๊กคู่มือขั้นแอดวานซ์สำหรับจรวดมิสไซล์แบบควบคุมทิศทาง ในการบังคับและคาดการณ์สำหรับจุดประสงค์ก่อการร้าย*** รวมไปถึงนิตยสารดาบิค (Dabiq) จำนวนมากที่เสนอรายละเอียดกิจกรรมการก่อการร้ายของ IS ในรูปแบบนิตยสารที่วางแผงทั่วไปในกรุงลอนดอน
และในการจับกุม ตำรวจยังได้รวบข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์แลปท็อปซัมซังของคนร้ายออทิสติกที่บรรจุข้อมูลร่วม 6.1 เตตราไบต์ไว้
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่า ศาลอังกฤษฟังความได้ว่า อุลลาห์ยอมรับความผิดข้อกล่าวหา ที่ว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 จนถึงวันถูกจับกุม(22 ก.ย 2016) ยืนยันว่า ตัวเขาเป็นผู้อัพโหลดวิดีโอแนะนำให้กับสมาชิกทางกลุ่มในการซ่อนตัวทางโลกออนไลน์ด้วยการใช้ระบบเอ็นคริปชัน โดยเดอะซันชี้ว่า ในวิดีโอคลิป พบว่า ชายออทิสติกผู้นี้ใช้วิธีการปิดบังใบหน้า และใช้ระบบซอฟต์แวร์ในการจัดการกับเสียงที่ออกมาของเขาเพื่อซ่อนสำเนียงเวลช์ (welsh)ของอังกฤษไว้
โดยพบว่าสำหรับคดีความผิด ชายผู้นี้ยอมรับสารภาพในความผิดข้อหาการเป็นสมาชิก่อการร้าย IS
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ก่อการร้ายชาวอังกฤษรายนี้ยัง ยอมรับสารภาพอีกว่า เป็นผู้เผยแพร่บล็อกระบบเอ็นคริปสำหรับปิดเป็นความลับ โดยอุลลาห์เลือกใช้ระบบเอ็นคริปชัน “ซีโรเน็ต” (ZeroNet) เพื่อในการทำให้การเข้าสู่บล็อกแบบเพียร์ทูเพียร์สำหรับการติดต่อระหว่างเพื่อนสมาชิกก่อการร้ายนั้นมีความปลอดภัยสูง โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยสื่อเดอะซันชี้ว่า ชายวัย 34 ปีผู้นี้ยอมรับว่า เป็นผู้ครอบครองข้อมูลก่อการร้าย และการเตรียมการเพื่อลงมือโจมตีโดยการสร้างบล็อก อันซาร์ อัล คอลิฟะห์ เวิร์ดเพรซ(Ansar al Khilafah Wordpress) นี้ขึ้นมา
แต่ข้อกล่าวหาที่ว่า ชายผู้นี้เป็นลงแฮกข้อมูลทางการทหารเพื่อกลุ่ม IS นั้นชายผู้นี้ปฎิเสธในข้อกล่าวหา ซึ่งเดอะซันชี้ว่า อุลลาห์ยอมรับผิดในข้อกล่าวหาก่อการร้าย 5 ข้อกล่าวหาต้นเดือนนี้ที่เดอะ โอลด์ เบลเลย์( the Old Bailey) แต่ทางสื่อเพิ่งสามารถรายงานได้ในวันจันทร์(20 มี.ค) หลังจากที่ทางอัยการตัดสินใจไม่เอาผิดชายผู้นี้เพิ่ม
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ในขณะนี้ถึงแม้ว่า ซามาตา อุลลาห์ จะถูกวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคออทิสติก แต่ทว่าอุลลาห์ยังต้องเผชิญหน้ากับโทษจำคุกเป็นระยะเวลานาน เมื่อมีการกำหนดวันออกมา
เดอะซัน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้พบว่า อุลลาห์ได้สั่งซื้อยูเอสบีแฟลชไดร์ฟกระดุมข้อมือสูทจำนวนถึง 50 คู่จากเว็บไซต์การประมูลของจีนแห่งหนึ่ง แต่กลับพบว่ามีจำนวนแค่ 30 คู่เท่านั้นที่ถูกพบอยู่ภายในบ้านของชายผู้นี้ในขณะตำรวจเข้าบุกจับ
โดยเดลีเทเลกราฟรายงานว่า อุลลาห์ถูกจับกุมหลังจากทางตำรวจเคนยาทำการจับกุมตัวผู้ก่อการร้าย IS ที่อื้อฉาวในเคนยา ที่สื่อเดอะซันชี้ว่า คือ อาบู ฟรีดา(Abu Fidaa) ที่ในเวลานี้อยู่ในระหว่างการขึ้นศาลไต่สวนความผิดก่อการร้ายในเคนยาเช่นกัน ซึ่งพบว่าคนทั้งสองทำการติดต่อระหว่างกันสม่ำเสมอ