รอยเตอร์ - ตัวเลขการโจมตีรุนแรงโดยเครือข่ายก่อการร้ายในจีนลดลงเนื่องจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น สื่อทางการรายงานในวันนี้ (21 มี.ค.) อย่างไรก็ตาม สื่อยังอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญด้วยว่าระดับความพยายามก่อเหตุยังคงพุ่งสูง
จีนระบุว่า พวกเขากำลังเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรงจากลัทธิสุดโต่งโดยเฉพาะในแคว้นซินเจียงทางตะวันตกซึ่งมีผ้เสียชีวิตหลายร้อยคนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาในความไม่สงบระหว่างชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมเชื้อสายอุยกูร์และชาวจีนเชื้อสานฮั่นที่เป็นคนหมู่มาก
เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีการรณรงค์โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่นั่นที่ต้องการให้จัดตั้งรัฐเอกราชชื่อว่าเตอร์กิสถานตะวันออก อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิตั้งข้อสงสัยถึงการมีอยู่ของกลุ่มติดอาวุธในซินเจียง และระบุว่า ความไม่พอใจของชาวอุยกูร์ต่อนโยบายกดขี่ข่มเหงของจีนเป็นสาเหตุของความไม่สงบมากกว่า
“การโจมตีรุนแรงที่เกี่ยวข้องหรือบงการโดยเครือข่ายก่อการร้าย” ลดลงในปี 2016 หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีฉบับภาษาอังกฤษรายงาน อ้างอิงข้อมูลจากสำนักกฎหมายของสถาบันวิจัยสังคมศาสตร์แห่งประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม หลี เว่ย ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการ้ายที่สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยแห่งประเทศจีน บอกกับไชน่าเดลีว่า “ประชาชนควรตระหนักว่า มีการสกัดกั้นโจมตีในระยะการวางแผนมากขึ้น เราไม่เห็นการลดต่ำลงของตัวเลขความพยายามก่อเหตุเลย”
ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ถูกเปิดเผยโดยทางสถาบัน ไชน่าเดลีระบุ พวกเขากล่าวว่า “ผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย” ส่วนใหญ่เกิดในช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 และว่า เครือข่ายจำนวนมากถูกก่อตั้งขึ้นในหมู่สมาชิกครอบครัว
อ้างจากไชน่าเดลี สถาบันแห่งนี้ระบุว่า ภัยคุกคามจากการโจมตีเช่นนี้ “อาจร้ายแรงยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากในตอนนี้กลุ่มก่อการร้ายต่างแดนมีอิทธิพลมากขึ้นและการติดต่อระหว่างกลุ่มก่อการร้ายภายในประเทศและต่างประเทศมีความใกล้ชิดมากขึ้น”
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ชาวอุยกูร์ที่อ้างว่ากำลังสู้รบร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักได้แพร่คลิปวิดีโอข่มขู่จีนและประกาศว่าจะละเลงเลือดในแดนมังกร
แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงปักกิ่งระบุว่า ความรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยในซินเจียงมากกว่าที่ทางการรายงาน
ตำรวจติดอาวุธของจีนหลายพันคนจัดเดินขบวนและชุมนุมใหญ่ในซินเจียงเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในสิ่งที่เจ้าหน้าที่เรียกว่าเป็น “การประกาศสงคราม” กับกลุ่มติดอาวุธและกองกำลังแบ่งแยกดินแดน
นอกจากการแสดงกำลัง ทางการยังออกมาตรการเข้มงวดหลายอย่างตั้งแต่การตรวจการณ์โดยเฮลิคอปเตอร์ไปจนถึงเงินรางวัลสำหรับการแจ้งเบาะแส และการบังคับติดเครื่องติดตามผ่านดาวเทียมในรถยนต์บางคัน