รอยเตอร์ – ผู้อำนวยการเอฟบีไอและเอ็นเอสเอเตรียมให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาคองเกรสในวันจันทร์ (20) ที่เป็นการไต่สวนถึงความเป็นไปได้ เรื่องความเชื่อมโยงระหว่างรัสเซียกับการหาเสียงของทรัมป์ ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนให้สาธารณชนรับทราบแบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
เดวิน นูเนส ประธานคณะกรรมาธิการเฉพาะกิจถาวรว่าด้วยการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎร , อดัม ชิฟฟ์ สมาชิกคณะกรรมาธิการฯ จากพรรคเดโมแครต ได้เรียกร้องให้ เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และพลเรือเอก ไมค์ โรเจอร์ส ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) เข้าให้การ อันเป็นส่วนหนึ่งของการไต่สวนข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว
นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมาธิการรัฐสภาอีกหลายชุดที่กำลังสอบสวนกรณีนี้อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการในทางลับ อย่างไรก็ตาม บรรดาสมาชิกรัฐสภาจำนวนมากประกาศว่า จะเปิดเผยผลการสอบสวนต่อสาธารณชนมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ท่ามกลางความไม่พอใจว่า มอสโกพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งเพื่อส่งเสริมประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่าโคมีย์และโรเจอร์สจะไม่เปิดเผยรายละเอียดการสอบสวนต่อสาธารณชนมากนัก ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ถือเป็นความลับสุดยอด แต่มีแนวโน้มว่า บรรยากาศขณะให้การจะคุกรุ่น เนื่องจากรีพับลิกันต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนของผู้นำพรรค กับความไม่พอใจของพรรคเดโมแครต กรณีที่ผู้นำของรีพับลิกันในสภาปฏิเสธแต่งตั้งอัยการพิเศษหรือคณะกรรมาธิการเฉพาะกิจเพื่อสอบสวนเรื่องนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์เพิ่งปลด ไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากมีการเปิดเผยว่า ฟลินน์ปิดบังเรื่องการติดต่อกับเอกอัครราชทูตรัสเซียก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม
สัปดาห์ที่แล้วยังมีข่าวฉาวใหม่อีกเรื่อง ที่ระบุว่า เมื่อสองปีที่แล้วฟลินน์เคยรับเงินกว่า 65,000 ดอลลาร์จากบริษัทหลายแห่งที่เชื่อมโยงถึงรัสเซีย
นอกจากนั้น เจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรียุติธรรมและอดีตวุฒิสมาชิกรีพับลิกัน ยังต้องถอนตัวจากการสอบสวนเรื่องนี้ หลังจากถูกแฉว่าระหว่างการซักถามเพื่อให้การรับรองในการดำรงตำแหน่ง เขาไม่ยอมเปิดเผยว่าเคยพบกับ เซอร์เก คิสลยาค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ในช่วงเลือกตั้ง
สมาชิกรัฐสภาจากรีพับลิกันและเดโมแครต ต่างไม่พอใจที่หน่วยงานด้านข่าวกรองไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อกับรัสเซียมากพอ เช่นเดียวกับการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานของทรัมป์ว่า อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต สั่งให้ติดอุปกรณ์ดักฟังในอาคาร ทรัมป์ ทาวเวอร์
ชิฟฟ์คาดหวังว่า โคมีย์จะให้ความชัดเจนว่าข้อกล่าวหาของทรัมป์ไม่มีมูลในระหว่างการให้การวันจันทร์ ด้านนูเนสกล่าวผ่าน "ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์" ว่าเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า มีการอนุญาตให้ดักฟัง
สมาชิกรัฐสภาของทั้งสองพรรคต่างขู่จะออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ในคณะบริหาร หรือชะลอการรับรองตำแหน่งสำหรับผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อในอีกหลายตำแหน่ง จนกว่าจะมีคำตอบเกี่ยวกับการร้องขอข้อมูลนี้
สมาชิกเดโมแครตจำนวนมากยังไม่พอใจอย่างยิ่งเรื่องที่โคมีย์ดำเนินการสอบสวน ฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรค กรณีการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยเฉพาะการออกคำแถลงก่อนกำหนดเลือกตั้งเพียงไม่กี่วัน
แจ็ค แลงเกอร์ โฆษกของนูเนสตอบคำถามจากผู้สื่อข่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ คาดหวังว่า โคมีย์และโรเจอร์จะเปิดเผยการดำเนินการของรัสเซียระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว , มาตรการรับมือของรัฐบาล , การรวบรวมข้อมูลของหน่วยงานด้านข่าวกรองที่ปรากฏในรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้เมื่อวันที่ 6 มกราคม และการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องที่อาจรวมถึงความเป็นไปได้ในการสอดแนมสมาชิกทีมหาเสียงของทรัมป์ และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลลับรั่วไหล
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฏรจะจัดทำการไต่สวนอย่างเปิดเผยครั้งที่ 2 ในวันที่ 28 มีนาคม โดยจะเรียกอดีตเจ้าหน้าที่ซึ่งรวมถึง เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ , จอห์น เบรนแนน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) เข้าให้การ ส่วนคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาประกาศทำการไต่สวนอย่างเปิดเผยในวันที่ 30 มีนาคมนี้ โดยไม่มีแผนเรียกเจ้าหน้าที่รัฐบาลเข้าให้การ