เอเอฟพี - ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เจ้าชายวิลลียม และเจ้าหญิงแคทเธอรีน แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงเริ่มต้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นวันที่สองของการเสด็จฯ เยือนฝรั่งเศส ด้วยการเข้าให้กำลังใจแก่บรรดาเหยื่อผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสในเดือนพฤศจิกายน 2015 ที่โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่ง ทั้งสองพระองค์ได้ตรัสชื่นชมคนเหล่านั้นถึงความกล้าหาญในตัวเองที่มี
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ว่า ในการเสด็จฯ เยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เจ้าชายวิลลียม และเจ้าหญิงแคทเธอรีน แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทั้ง 2 พระองค์เข้าให้กำลังใจแก่เหยื่อผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ก่อการร้ายกรุงปารีส ปี 2015 ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตกว่าร้อย ที่ “Hotel des Invalides” โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในกรุงปารีส
ซึ่งหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นหญิงที่ยังต้องอาศัยรถเข็นเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บที่เธอได้รับ กล่าวกับทั้งสองพระองค์อย่างตรงไปตรงมาว่า “พวกเราต่างโชคดีที่ยังมีชีวิต”
ทั้งนี้ เอเอฟพีชี้ว่าหญิงเคราะห์ร้ายรายนี้อยู่ภายในบาร์ Belle Equipe ฉลองวันเกิดครบ 24 ปีของเธอร่วมกับเพื่อนๆ ในขณะที่กลุ่มนักรบญิฮาด IS พร้อมอาวุธปืนได้บุกเข้ามา และเริ่มสาดกระสุนใส่ผู้คน ซึ่งพบว่ากระสุนปืนเจาะเข้าบริเวณขา สะโพก และหลังของเหยื่อสาวรายนี้
เอเอฟพีรายงานว่า ดูเหมือนเหยื่อกระสุนปืนก่อการร้าย IS คนนี้จะสังเกตเห็นชุดฉลองพระองค์ที่เจ้าหญิงเคททรงอยู่ในระหว่างที่สนทนา ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบจากดีไซเนอร์ ชาแนล ของฝรั่งเศส ทำให้หญิงสาวที่ยังต้องอาศัยรถเข็นได้กล่าวว่า เธอมีแรงบันดาลใจที่ต้องการเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าเช่นกัน ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ในสภาพที่ยังต้องรับการรักษาพยาบาลต่อไป
โดยหญิงสาวผู้นี้กล่าวว่า “ดิฉันมีความฝัน ดิฉันยังคงมีความใฝ่ฝันอยู่ ดิฉันต้องการมีชีวิตอยู่และต้องการทำงาน ดิฉันต้องการแสดงให้คนร้ายเหล่านั้นเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถชนะได้”
ในขณะเดียวกัน เหยื่อรอดชีวิตจากคมกระสุนก่อการร้ายอีกรายเป็นนักดับเพลิงแดนน้ำหอม ที่ใช้ชื่อเรียกเพียง เควิน ได้อธิบายถึงสถานการณ์ที่เขาได้เข้าร่วมในหอแสดงคอนเสิร์ตบาตาคล็อง (Bataclan) ในคืนนั้นที่เมื่อเขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น
โดยเควินกล่าวว่า “กลุ่มคนร้ายเริ่มต้นตะโกนใส่ผู้เข้าชมคอนเสิร์ต และเริ่มเปิดฉากสาดกระสุนปืน” และกล่าวต่อว่า “ใครก็ตามที่เสียงดัง จะโดนยิงกลับมา และทำให้ผมต้องทำตัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้”
นักดับเพลิงฝรั่งเศสกล่าวต่อว่า “ผมโดนยิงที่ขา 2 นัด แต่ต้องนอนงียบอยู่อย่างนั้น”
เอเอฟพีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในหอคอนเสิร์ตแห่งนี้จำนวน 90 คน
ในขณะเดียวกัน เจ้าชายวิลเลียมได้ตรัสสรรเสริญคนไข้ที่รอดชีวิต ซึ่งได้เข้ารับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาลทหารฝรั่งเศสว่า เป็นผู้กล้าหาญ โดยพระองค์ตรัสว่า “พวกคุณเป็นคนกล้าหาญมาก พวกคุณต้องภาคภูมิใจในตัวเองอย่างที่สุด”
และหลังจากเสร็จสิ้นการเสด็จฯ ทรงเยี่ยมผู้ป่วยแล้ว เอเอฟพีชี้ว่าผู้คนภายในหอศิลป์ the Musee d’Orsay ต่างต้องตื่นตกใจ เมื่อพบว่าราชวงศ์อังกฤษที่โด่งดังทั้ง 2 พระองค์ทรงปรากฏพระวรกายเป็นหนึ่งในผู้เข้าชมงานศิลปะของจิตรกรก้องโลก โกลด มอแน เช่นกัน
โดยเอเอฟพีรายงานเป็นการเสด็จฯ ที่ไม่มีการประกาศล่วงหน้า
ทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนทอดพระเนตรผลงานศิลปะจิตรกรที่มีชื่อเสียงระดับโลกภายในหอศิลป์แห่งนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานีรถไฟเก่า โดยภายในหอศิลปะที่ทั้งสองพระองค์ทอดพระเนตรเป็นผลงานของ มอแน จิตรกรชาวฝรั่งเศสอิมเพรสชันนิสต์
และหลังจากนั้นทั้งดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ได้เสด็จฯ ไปยังอาคารโทรคาเดโร (Trocadero) เพื่อทอดพระเนตรการแสดงการแข่งขันกีฬารักบี้ ซึ่งเป็นเกมกีฬาที่ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสให้ความนิยมเป็นอย่างมาก
เอเอฟพีชี้ว่า ในระหว่างที่เจ้าชายวิลเลียมกำลังทอดพระเนตรการแข่งขันรักบี้อยู่นั้น เด็กชายชาวอังกฤษคนหนึ่งได้กราบทูลถามดยุคแห่งเคมบริดจ์ว่า พระองค์คิดเช่นไรต่อกรณี BREXIT หรือการที่อังกฤษลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
แต่เป็นเพราะเจ้าชายวิลเลียมที่ทรงต้องทำตามขนบที่เคร่งครัดของราชวงศ์ในการห้ามไม่ให้สมาชิกราชวงศ์แสดงการสนับสนุนหรือคัดค้านทางการเมือง ทำให้เจ้าชายวิลเลียมตรัสตอบพร้อมแย้มพระสรวลว่า “คำถามเช่นนี้ ข้าพเจ้ามิอาจตอบได้ แต่ถือเป็นความพยายามที่ดี”