รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) อัยการเวเนซุเอลาแถลงการณ์พบศพจำนวน 15 ร่าง รวมไปถึง 3 ร่างอยู่ในสภาพไร้ศีรษะ ที่ถูกฝังในหลุมศพหมู่ซ่อนไว้ในเรือนจำกลาง เจเนอรัล เพนิเทนทิอารี (General Penitentiary) รัฐกวารีโก (Guárico) เวเนซุเอลา เชื่อตัวเลขการค้นพบอาจมีมากกว่านี้
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) การค้นพบที่น่าสยดสยองในเดือนนี้ที่เวเนซุเอลา ทำให้ทั่วโลกต้องกลับมาให้ความสนใจไปยังระบบเรือนจำของประเทศที่แออัด เต็มไปด้วยความรุนแรง และอยู่ภายใต้อิทธิพลของแก๊งเถื่อน ส่งผลทำให้มีจำนวนนักโทษในเรือนจำเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปี
ทั้งนี้ ในการแถลงในวันเสาร์ (18 มี.ค.) สำนักงานอัยการเวเนซุเอลาประกาศต่อสาธารณะถึงการค้นพบหลุมศพหมู่ภายในเรือนจำกลาง เจเนอรัล เพนิเทนทิอารี(General Penitentiary) ทางตอนกลางของรัฐกวารีโก (Guárico) ล่าสุดผลจากการทำงานในการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ 20 คนที่ลงมือค้นหาทุกตารางนิ้วภายในเรือนจำแห่งนี้
และทำให้ล่าสุดเจอโครงกระดูกผู้เสียชีวิตจำนวน 15 ราย ที่มี 3 รายอยู่ในสภาพไม่มีศีรษะ รอยเตอร์ชี้
โดยในแถลงการณ์สำนักงานอัยการเวเนซุเอลากล่าวว่า “ทางเราเชื่อว่าอาจมีศพผู้เสียชีวิตถูกค้นพบมากกว่านี้”
แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เวเนฯ ไม่ได้อธิบายการเสียชีวิต ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนเวเนฯ หน้าต่างแห่งเสรีภาพ (A Window On Liberty) ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ในเรื่องนี้ว่า ทางกลุ่มเชื่อว่าจำนวนกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้นถูกแก๊งอิทธิพลภายในเรือนจำสังหาร ก่อนที่เรือนจำแห่งนี้จะถูกปิดตัวลงชั่วคราวเพื่อทำการปรับปรุง ซึ่งเชื่อว่าอาจเห็นตัวเลขสูงถึง 100 ราย
โดยผู้ประสานงานของกลุ่ม คาร์ลอส นิเอโต (Carlos Nieto) แถลงว่า “ไม่ว่าจะเป็น 14 คน 50 คน หรือร่วม 100 คน แต่ทว่าเป็นความจริงที่ชีวิตคนเหล่านี้ล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลเวเนซุเอลา” และยังกล่าวเสริมว่า เรือนจำกลางเวเนซุเอลาแห่งนี้เคยทำการคุมขังนักโทษจำนวน 9,000 คนมาแล้ว
รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นที่รู้กันดีว่าระบบเรือนจำเวเนซุเอลานั้นอื้อฉาวในด้านการรักษาความปลอดภัย ที่พบว่ามีการลักลอบนำอาวุธ ยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมใช้อินเทอร์เน็ตเข้าไปด้านในได้โดยง่าย และยังหละหลวมขนาดที่ทางผู้ต้องขังสามารถหลบออกไปสู่ภายนอก ลงมือประกอบอาชญากรรมอีกครั้ง
และพบว่ามีบางเรือนจำในเวเนซุเอลาถึงขั้นให้บริการคลับดิสโก้เต้นรำ และสระว่ายน้ำ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเวเนฯ กล่าวต่อว่า ภายในประเทศเวเนซุเอลาเองมีเรือนจำขังนักโทษไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง สำหรับนักโทษจำนวน 50,000 คน แต่ศักยภาพระบบเรือนจำนั้นในความจริงถูกออกแบบสำหรับการคุมขังแค่จำนวน 1 ใน 3 ของจำนวนนักโทษทั้งหมดที่มีในปัจจุบัน
ทั้งนี้ เวเนซุเอลายังอยู่ในสภาพวิกฤตทางเศรษฐกิจขั้นร้ายแรง ซึ่งทางสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาประจำปี 2017 จะสูงถึง 1,660% และประชาชนหิวโหยหนักจนต้องคุ้ยขยะข้างถนนเพื่อหาอาหารรับประทาน
แต่ทว่าไม่กี่วันก่อนหน้านี้ CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลคาราคัสของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ออกมาปฏิเสธความช่วยเหลือจากนานาชาติ ถึงแม้ว่าราคาอาหารในประเทศของเขาจะถีบตัวและประชาชนต้องอยู่อย่างหิวโหยก็ตาม
และในวันอังคาร (14 มี.ค.) ที่ผ่านมา หลุยซ์ อัลมาโกร ( Luis Almagro) ประธานองค์กรรัฐแห่งอเมริกา OAS ได้ออกประกาศผ่านรายงาน 75 หน้าถึงปัญหาวิกฤตเวเนซุเอลา และกล่าวโทษผู้นำเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ
และทำให้อัลมาโกรได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิก OAS ทั้ง 34 ชาติร่วมกันใช้สิทธิแทรกแซงวิกฤตที่เกิดขึ้นภายในเวเนซุเอลา VOA สื่อสหรัฐฯ รายงาน
ซึ่งการร้องขอของประธานกลุ่ม OAS นั้น พบว่าต้องการให้ระงับความเป็นสมาชิกภาพของเวเนซุเอลาไว้ ซึ่งสื่อสหรัฐฯ ชี้ว่าต้องใช้เสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จนกว่าเวเนซุเอลาจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อหาทางออกจากทางตันทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เป็นสิ่งที่อัลมาโกรเชื่อว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่เป็นการทำลายประชาธิปไตยเวเนซุเอลา