เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ในระหว่างการพบปะกับโฮร์สต์ ซีโฮเฟอร์ (Horst Seehofer) นายกรัฐมนตรีประจำแคว้นบาวาเรีย ในวันพฤหัสบดี (16 มี.ค.) ที่ทำเนียบเครมลิน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศต่อหน้าสาธารณะ นายกฯ หญิงเมืองเบียร์ อังการา แมร์เคิล จะเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤษภาคมที่จะถึง ท่ามกลางทุกคู่สายตาทั่วโลกจับจ้องการพบปะระหว่างแมร์เคิล และประธานาธิบดีทรัมป์ในวันนี้ (17 มี.ค.)
RT รายงานเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ว่า ในช่วงระหว่างการหารือของนายกรัฐมนตรีแคว้นบาวาเรียของเยอรมนี โฮร์สต์ ซีโฮเฟอร์ (Horst Seehofer) และผู้นำรัสเซียในวันพฤหัสบดี (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ประกาศออกมาว่า “ได้โปรดส่งความปราถนาดีของผมไปยังท่านผู้นำแห่งสหพันธรัฐด้วยว่า ทางเรากำลังเฝ้ารอการเยือนของยายกรัฐมนตรีหญิง อังเกลา แมร์เคิลในวันที่ 2 พฤษภาคมที่จะถึงนี้”
และทำให้ซีโฮเฟอร์จากแคว้นบาวาเรียได้ตอบกลับมาว่า ทางนายกฯ หญิงแห่งเยอรมนีได้กำชับเขาก่อนเดินทางมากรุงมอสโก ให้อย่าลืมส่งความปรารถนาดีของเธอมายังประธานาธิบดีปูตินแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งผู้นำแคว้นบาวาเรียชี้ว่าเป็นสิ่งที่เขาลืมไม่ได้เป็นอันขาด
โดยซีโฮเฟอร์กล่าวตอบปูตินว่า “ท่านกล่าวว่ามีความประสงค์ต้องการมาพบกับท่านประธานาธิบดีในช่วงต้นพฤษภาคมนี้”
ทั้งนี้ สำนักข่าว DPA ได้รายงานว่า นายกรัฐมนตรีประจำแคว้นบาวาเรียยืนยันกำหนดการเยือนรัสเซียของแมร์เคิลในวันที่ 2 พ.ค. 2017
สื่อรัสเซียรายงานว่า ความต้องการในการให้อังเกลา แมร์เคิล เดินทางมายังกรุงมอสโกนั้นเริ่มเปิดฉากจากทางฝั่งรัสเซีย ที่พบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ซิกมาร์ การเบรียล (Sigmar Gabriel) ปูตินเป็นฝ่ายเปิดปากถามถึงความเป็นไปได้กำหนดการเยือนกรุงมอสโกของผู้นำหญิงเหล็กคนนี้
โดยประธานาธิบดีรัสเซียอ้างว่า ต้องการให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองชาติกลับมาสู่ระดับปกติโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ซีโฮเฟอร์และโฆษกเครมลิน ดมิตรี เพชคอฟ ได้ต่างออกมาเปรยถึงความเป็นไปได้ที่ทางนายกรัฐมนตรีเยอรมันจะเยือนรัสเซียอีกครั้ง แต่ทว่าไม่ได้กล่าวไปถึงกำหนดเวลา อย่างไรก็ตามเพชคอฟชี้ว่า เชื่อว่าหัวข้อสนทนาของผู้นำทั้งสองน่าจะอยู่ในประเด็นความขัดแย้งยูเครนเป็นหลัก
RT รายงานว่า การเยือนกรุงมอสโกอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีประจำแคว้นบาวาเรียโฮร์สต์ ซีโฮเฟอร์เกิดขึ้นจากคำเชิญของนายกเทศมนตรีกรุงมอสโก เซอร์เก ซับยานนิน (Sergey Sobyanin)
การประกาศกำหนดการเยือนรัสเซียของแมร์เคิลเกิดขึ้น 1 วันก่อนที่อังเกลา แมร์เคิล จะพบเป็นครั้งแรกกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ททำเนียบขาวในวันศุกร์ (17 มี.ค.) โดยรอยเตอร์รายงานวันนี้ (17) ว่าเป็นการพบปะแบบเผชิญหน้าครั้งแรกของผู้นำทั้งสองชาติ ทางรอยเตอร์เชื่อว่า จะสามารถคาดการณ์ไปถึงข้อตกลงการค้าเสรีข้ามแอตแลนติก TTIP ระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่แมร์เคิลยอมรับว่าได้หมดโอกาสไปแล้วหลังจากทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ แทน ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากฝ่ายเดโมแครต
และในการหารืออาจช่วยเหลือให้ทั้งทรัมป์และแมร์เคิลที่กำลังจะหมดวาระลงในปีนี้สามารถทำงานร่วมกันได้มากขึ้น
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ในการหารือระดับทวิภาคีครั้งแรก เชื่อว่าหัวข้อที่ทรัมป์และแมร์เคิลจะร่วมถกเถียง น่าจะอยู่ในประเด็น การให้เงินอุดหนุนกับองค์การนาโตของยุโรป ที่ครั้งหนึ่งทรัมป์เคยประกาศว่า เป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปแล้ว และปัญหาความสัมพันธ์กับรัสเซีย
มีรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีเยอรมันจะเดินทางมายังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แมร์เคิลได้เตรียมตัวมาอย่างดี ในการที่จะกดดันทรัมป์ให้ความมั่นใจในการยังคงสนับสนุนในสหภาพยุโรป หรืออียู ต่อไป และรวมไปถึงพันธสัญญาในการร่วมสู้กับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทางฝ่ายพรรครีพับลิกันของทรัมป์ต่อต้านมาโดยตลอด
ทั้งนี้ รอยเตอร์ยืนยันว่า การพบปะครั้งแรกของผู้นำทั้งคู่เกิดมาจากความเห็นชอบของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายในเบื้องต้น ซึ่งเป็นที่รู้ดีว่า ทรัมป์เคยถึงขั้นวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีหญิงคนนี้ทำลายเมืองเบียร์ ด้วยการอนุญาตให้ผู้อพยพจำนวนมากไหลทะลักเข้าประเทศ โดยเชื่อว่าในการพบกันในวันศุกร์ (17) ทรัมป์ต้องพยายามหว่านล้อมแมร์เคิลให้เห็นคล้อยตามในประเด็นที่ว่าประเทศสมาชิกองค์การนาโตสำควรต้อง “จ่ายมากขึ้น” ให้กับสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือด้านทางการทหาร
นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังเชื่อว่า ทรัมป์อาจต้องร้องขอคำแนะนำจากแมร์เคิลในการใช้เพื่อรับมือกับปูติน ซึ่งผู้นำหญิงเยอรมันถือเป็นผู้นำที่ต้องรับมือกับประธานาธิบดีรัสเซียที่ทรงอิทธิพลนี้มากที่สุด ในขณะที่ทรัมป์ตั้งแต่ขึ้นสู่อำนาจ มีแต่เรื่องฉาวเกี่ยวข้องกับรัสเซียทั้งสิ้น จนถึงขั้นไล่อดีตที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว ไมค์ ฟลินน์ มา แล้ว หลังจากที่ทำการปกปิดถึงการหารือกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯเกี่ยวกับนโยบายคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย
โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า “ท่านประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีความสนใจมากในการรับฟังถึงความคิดเห็นของเธอในประสบการณ์ยาวนานที่ต้องเผชิญหน้ากับปูติน”
ทั้งนี้ เป็นที่รู้ว่าผู้นำหญิงเยอรมนีนั้นมีความใกล้ชิดกับชุดรัฐบาลเดโมแครตมากกว่า
