xs
xsm
sm
md
lg

'บ่วงรัดคอ'ทรัมป์ กล่าวหาโอบามาดักฟังโทรศัพท์ ก.ยุติธรรมขอเพิ่มเวลาหาหลักฐานยืนยัน หลังสภาบีบหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเจนซีส์ - การกล่าวยืนกรานอย่างไม่มีหลักฐานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่า บารัค โอบามา อดีตผู้นำอเมริกันคนก่อนหน้า ได้สั่งการให้ดักฟังโทรศัพท์ของอาคารระฟ้าในนิวยอร์กของเขา ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ทำท่ากลายเป็นบ่วงรัดคอตัวเอง โดยขณะที่ถึงกำหนดเส้นตายในวันจันทร์ (13 มี.ค.) ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯก็ต้องบอกขอเวลาเพิ่มเติมจากบรรดาสมาชิกรัฐสภา สำหรับการจัดหาข้อมูลเพื่อสนับสนุนคำพูดของทรัมป์ ในเวลาเดียวกัน ทำเนียบขาวยังดูเหมือนพยายามลดทอนน้ำหนักคำกล่าวหาของทรัมป์ให้แลดูนุ่มนวลลงมา

คณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรแถลงว่า จะให้เวลากระทรวงยุติธรรมเพิ่มจนถึงวันจันทร์หน้า (20 มี.ค.) สำหรับการยื่นหลักฐานตามที่คณะกรรมาธิการยื่นขอไป โดยวันดังกล่าวคือวันเปิดการรับฟังปากคำวันแรกของคณะกรรมาธิการชุดนี้ในการสอบสวนเรื่องรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2016 และความเป็นไปได้ที่คณะผู้ร่วมงานของทรัมป์อาจมีการติดต่อกับรัสเซีย

ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกให้ เดวิน นูเนส ส.ส.สังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เป็นประธานของคณะกรรมาธิการชุดนี้ บอกว่า ถ้ากระทรวงยุติธรรมยังไม่สามารถทำตามเส้นตายใหม่นี้ คณะกรรมาธิการก็อาจต้องใช้อำนาจเรียกดูหลักฐานของตน เพื่อทำการรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง

“ถ้าคณะกรรมาธิการยังไม่ได้รับคำตอบเมื่อถึงเวลานั้น คณะกรรมาธิการนี้ก็จะเรียกข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ในระหว่างการรับฟังปากคำวันที่ 20 มีนาคม และอาจจะหันไปพึ่งพากระบวนการใช้อำนาจบังคับ หากคำถามต่างๆ ของเรายังคงไม่ได้รับคำตอบ” แจ๊ก แลงเกอร์ ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกให้ ส.ส.นูเนส สำทับ

การยืนกรานในเรื่องถูกดักฟังนี้ของทรัมป์ ทำให้คณะบริหารของเขาตกอยู่ในสภาพดิ้นไม่ออก ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งพวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารชุดปัจจุบันและชุดที่ผ่านมา ต่างบอกว่าไม่สามารถหาหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่าคณะบริหารโอบามาดำเนินการดักฟังโทรศัพท์อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก ถึงแม้พวกผู้ช่วยของทรัมป์แสดงท่าทีลังเลไม่ต้องการพูดขัดแย้งกับเจ้านายตัวเองต่อหน้าสาธารณชนก็ตาม

เมื่อวันจันทร์ (13) ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว พยายามอธิบายความเห็นในเรื่องนี้ของทรัมป์ โดยบอกว่าประธานาธิบดีซึ่งระบุในข้อความที่เขาทวิตว่ามีการดักฟังโทรศัพท์นั้น จริงๆ แล้วประธานาธิบดีไม่ได้ตั้งใจใช้คำนี้ในความหมายตามตัวอักษรตรงๆ พร้อมกับชี้ว่าทรัมป์ใส่ถ้อยคำนี้เอาไว้ในเครื่องหมายคำพูด

“ท่านประธานาธิบดีใช้คำว่าดักฟังโทรศัพท์ภายในเครื่องหมายคำพูด เพื่อให้หมายความถึงการสอดแนมอย่างกว้างๆ ตลอดจนกิจกรรมอย่างอื่นๆ” สไปเซอร์กล่าวตีความ เขายังเสนอแนะว่าทรัมป์ไม่ได้กำลังกล่าวหาอดีตประธานาธิบดีโอบามาอย่างเฉพาะเจาะจง แต่กำลังอ้างอิงถึงการกระทำของคณะบริหารโอบามา
<i>โลโก้ของอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา  ถ่ายเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2016 </i>
ตัวทรัมป์เองไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้อีกเลย ภายหลังจากทวิตข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องหลายข้อความเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งเขาระบุว่าเขา “เพิ่งค้นพบว่าโอบามาได้ 'ดักฟังโทรศัพท์' ผมในทรัมป์ ทาวเวอร์ เพียงไม่นานก่อนชัยชนะ (ในการเลือกตั้ง)” ในอีกข้อความหนึ่งที่เขาทวิต เขาเขียนว่า “เป็นการถูกกฎหมายไหมที่ประธานาธิบดีซึ่งกำลังอยู่ในตำแหน่ง ดำเนินการ 'ดักฟังโทรศัพท์' การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี?”

ยังมีทวิตอื่นๆ ของเขาอีก 2 ข้อความในวันนั้น ซึ่งทรัมป์ระบุว่าโอบามากำลังดักฟังโทรศัพท์ของเขา โดยที่ไม่ได้ใส่เครื่องหมายคำพูดในคำว่า ดักฟังโทรศัพท์

การที่ทรัมป์กล่าวหาโอบามาคราวนี้ ปรากฏขึ้นท่ามกลางคำถามทางการเมืองมากมายแวดล้อมเรื่องที่พวกคนทำงานของทรัมป์อาจมีความสัมพันธ์โยงใยกับรัสเซีย เวลานี้ทั้งสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ), คณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา และของสภาผู้แทนราษฎร กำลังเปิดการสอบสวนเรื่องการติดต่อระหว่างพวกคนทำงานของทรัป์กับรัสเซียในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปีที่แล้ว

ทั้งๆ ที่ทรัมป์ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันใดๆ เลย แต่ทำเนียบขาวก็เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการเหล่านี้สอบสวนข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีในเรื่องโอบามาดักฟังโทรศัพท์ด้วย ปรากฏว่าคณะกรรมาธิการของสภาล่างได้โยนเรื่องกลับมายังคณะบริหารทรัมป์ โดยกำหนดเส้นตายในวันจันทร์ที่ 13 ให้กระทรวงยุติธรรมยื่นหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้

ทางกระทรวงได้ตอบในคืนวันจันทร์ (13) ว่า จำเป็นต้องได้เวลาเพิ่มเติมสำหรับ “การศึกษาทบทวนคำขอของคณะกรรมาธิการกับพวกเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายที่รับผิดชอบ ตลอดจนเพื่อวินิจฉัยว่าเอกสารที่ตอบรับเกี่ยวกับเรื่องนี้จะมีอยู่หรือไม่”

ยังมีคณะกรรมาธิการชุดอื่นๆ ของรัฐสภาอีก ที่กำลังผลักดันให้คณะบริหารต้องชี้แจงข้อกล่าวอ้างของทรัมป์ให้ชัดเจน

ส.ว.ลินด์ซีย์ เกรแฮม สังกัดพรรครีพับลิกันจากมลรัฐเซาท์แคโรไลนา และ ส.ว.เชลดอน ไวต์เฮาส์ สังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐโรดไอแลนด์ ได้ยื่นขอให้รักษาการรัฐมนตรีช่วยยุติธรรม ดานา โบเอนเต และผู้อำนวยการเอฟบีไอ เจมส์ โคมีย์ จัดทำเอกสารว่าด้วยเส้นทางในการที่แผนกคดีอาญาของทางกระทรวงยื่นขออนุมัติและได้รับหมายศาลแต่ละครั้งในเรื่องการดักฟังโทรศัพท์นี้ วุฒิสมาชิกทั้ง 2 ซึ่งเป็นผู้นำในคณะอนุกรรมการอาชญากรรมและการก่อการร้าย ของคณะกรรมาธิการยุติธรรมวุฒิสภา ต้องการได้เอกสารยื่นขอหมายศาลและหมายศาลที่ออกให้เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าจะทำให้ได้หลักฐานเพียงพอขณะเดียวกันก็ยังสามารถคุ้มครองแหล่งข่าวตลอดจนวิธีในการสืบหาข่าวกรองลับๆ ได้
<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลัง “ถูกบ่วงรัดคอ”  สืบเนื่องจากการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานใดๆ รองรับ ว่าตนเองถูกประธานาธิบดีบารัค โอบามา ดักฟังโทรศัพท์ที่อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปีที่แล้ว </i>
พวกวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ ได้โจมตีประธานาธิดบีผู้นี้ที่กล่าวหาเรื่องถูกดักฟังโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ ทั้งนี้การดักฟังพลเมืองอเมริกันในสหรัฐฯนั้น ตามกฎหมายแล้วจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเป็นการเจาะจงจากศาล และทรัมป์ในฐานะที่เป็นประธานาธิบดี ก็มีอำนาจอยู่แล้วที่จะเรียกดูข้อมูลขอหมายศาลเหล่านี้

ส.ว.จอห์น แมคเคน ซึ่งเป็นนักการเมืองพรรครีพับลิกันผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่ง กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (12) ว่า “ผมคิดว่าท่านประธานาธิบดีมีทางเลือกที่จะต้องทำ 1 ใน 2 ทางเลือกนี้ นั่นคือ ถ้าไม่ถอนการกล่าวหา ก็ต้องให้ข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนชาวอเมริกันสมควรจะได้รับรู้”

“ถ้าบุคคลที่เป็นประธานาธิบดีคนก่อนหน้ากระทำสิ่งที่ละเมิดกฎหมาย ถ้าประธานาธิบดีละเมิดกฎหมายแล้ว เราก็เจอกับประเด็นปัญหาที่ร้ายแรงแล้วล่ะ นี่พูดกันอย่างน้อยที่สุดเลยนะ” แมคเคนบอก

มีรายงานว่าโคมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ได้รบเร้าเป็นการภายในให้กระทรวงยุติธรรมออกมาโต้แย้งการกล่าวอ้างของทรัมป์ ทว่าเขาไม่ได้ออกมาพูดเรื่องนี้ดวยตัวเอง ขณะที่ เจมส์ แคลปเปอร์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติในยุคโอบามา ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า ไม่มีอะไรแบบที่ทรัมป์กล่าวอ้างเกิดขึ้นมาเลย

ทางด้าน เคลลีแอนน์ คอนเวย์ ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว ได้ตอบเลี่ยงๆ ในวันจันทร์ (13) เมื่อเจอคำถามจากสื่อในเรื่องที่ว่าไม่มีหลักฐานข้อพิสูจน์ โดยบอกว่า เธอ “ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งงานที่จะมีหลักฐานในมือ”

ก่อนหน้านี้ เธอได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ เบอร์เกน เคาน์ตี เร็กคอร์ด ของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งนำออกตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (12) โดยดูเหมือนเธอกำลังชี้ว่าคณะบริหารโอบามาได้สั่งการให้สอดแนมทรัมป์อย่างกว้างขวาง

“สิ่งที่ดิฉันสามารถพูดได้ก็คือ มีหนทางมากมายเหลือเกินในการสอดแนมกันและกัน” คอนเวย์พูดระหว่างให้สัมภาษณ์เรื่องต่างๆ หลายหลากกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้

“คุณสามารถสอดแนมใครบางคนผ่านทางโทรศัพท์ของพวกเขา แน่นอนล่ะผ่านเครื่องรับโทรทัศน์ของพวกเขาก็ได้ –มีหนทางตั้งเยอะแยะ” รวมทั้ง “เตาไมโครเวฟที่เปลี่ยนไปเป็นกล้อง” เธอบอก “เรารู้ดีว่านี่คือความเป็นจริงของชีวิตสมัยใหม่”

ทว่าเมื่อถึงวันจันทร์ (13) ดูเหมือนคอนเวย์จะถอยห่างออกมาจากความเห็นเหล่านี้ –ซึ่งถูกนำมาเยาะเย้ยอย่างสนุกมือทางออนไลน์-- โดยเธอพูดในรายการข่าว “กู๊ด มอร์นิ่ง อเมริกา” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซีว่า สิ่งที่เธอพูดกับ เบอร์เกน เคาน์ตี เร็กคอร์ด นั้น เธอกำลังหมายถึง “การสอดแนมทั่วๆ ไป” ไม่ใช่เรื่องที่ทรัมป์กล่าวหาเกี่ยวกับการสอดแนมที่ทรัมป์ ทาวเวอร์

กำลังโหลดความคิดเห็น