รอยเตอร์ – ความสัมพันธ์สองชาติพันธมิตรนาโตร้าวลึก เมื่อตุรกีประกาศระงับความสัมพันธ์ทางการทูตระดับสูงกับเนเธอร์แลนด์ จากกรณีห้ามรัฐมนตรีตุรกีปราศรัยหาเสียงต่อชาวเติร์กที่อาศัยอยู่ในแดนกังหันลม นอกจากนี้อังการายังขู่ยกเลิกข้อตกลงในการหยุดยั้งการไหลทะลักของผู้อพยพเข้าสู่ยุโรป
มาตรการดังกล่าวครอบคลุมการห้ามเอกอัครราชทูตและนักการทูตเนเธอร์แลนด์เดินทางเข้าตุรกี แต่ไม่เกี่ยวข้องกับพลเมืองทั่วไปและไม่รวมมาตรการทางเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี เรเชป ตายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ที่กำลังระดมการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงสำหรับการทำประชามติในวันที่ 16 เมษายน ว่าด้วยการเพิ่มอำนาจของตนเองในฐานะประมุขรัฐนั้น กล่าวหาว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ทำตัวเหมือนเศษซากที่ยังหลงเหลืออยู่ของพวก "นาซี” กรณีที่ห้ามรัฐมนตรีตุรกีปราศรัยต่อชาวเติร์กที่อาศัยอยู่ในแดนกังหันลม
ความขัดแย้งนี้ดูเหมือนทำให้แนวโน้มการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ของอังการายิ่งมืดมน และยังเป็นช่วงที่ตุรกีกำลังผจญกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงและสงครามในประเทศเพื่อนบ้านอย่างซีเรีย
รองนายกรัฐมนตรี นูมาน เคอร์ตัลมัส แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ (13) ว่าตุรกีไม่อนุญาตให้เครื่องบินที่มีนักการทูตหรือผู้แทนรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ลงจอดหรือใช้น่านฟ้า ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับที่เนเธอร์แลนด์ใช้กับตุรกี พร้อมย้ำว่า ผู้ที่ก่อวิกฤตนี้ต้องรับผิดชอบในการแก้ไข
เคอร์ตัลมัสยังขู่ยกเลิกข้อตกลงของตุรกีในการหยุดยั้งการไหลทะลักของผู้อพยพเข้าสู่ยุโรป โดยบอกว่า อาจจำเป็นต้องทบทวนข้อตกลงนี้ นอกจากนั้น อังการายังสั่งระงับการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างสองประเทศจนกว่าเนเธอร์แลนด์จะชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป
แอร์โดอันยังขู่ฟ้องร้องเนเธอร์แลนด์ต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป และเรียกอุปทูตดัตช์เข้าพบเมื่อวันจันทร์ เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการของตำรวจต่อผู้ประท้วงชาวตุรกีในรอตเตอร์ดัม เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งคำสั่งห้ามรัฐมนตรีตุรกีปราศรัยในเนเธอร์แลนด์ อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่สงบ รวมถึงการที่เนเธอร์แลนด์ไม่พอใจท่าทีของแอร์โดอัน ที่โน้มเอียงไปทางเผด็จการมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์เผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ ตำรวจดัตช์ใช้สุนัขตำรวจและเครื่องฉีดน้ำสลายผู้ประท้วงตุรกีนับพันคนหน้าสถานกงสุลในรอตเตอร์ดัม ผู้ประท้วงบางคนขว้างขวดและก้อนหินใส่ตำรวจ และหลายคนถูกตำรวจใช้กระบองทุบตี
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11) รัฐบาลดัตช์ห้าม เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี บินไปรอตเตอร์ดัม และหลังจากนั้นยังขัดขวางไม่ให้ ฟัตมา เบตุล ซายัน คายา เข้าไปในสถานกงสุลตุรกีในเมืองดังกล่าว ทั้งยังนำตัวส่งกลับไปยังเยอรมนี หลังจากนั้นจึงมีการประท้วงทั้งในตุรกีและเนเธอร์แลนด์ โดยแหล่งข่าวในกระทรวงต่างประเทศตุรกีแย้มว่า อังการากำลังเรียกร้องคำขอขมาเป็นลายลักษณ์อักษรจากเนเธอร์แลนด์ในกรณีนี้
อย่างไรก็ตาม มาร์ค รูตต์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์แย้งว่า แอร์โดอันต่างหากที่ควรขอโทษ ที่เรียกเนเธอร์แลนด์ว่าเป็นฟาสซิสต์และนาซี พฤติกรรมของตุรกีนั้นรับไม่ได้และไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง
ปัจจุบัน หลายประเทศในยุโรปห้ามไม่ให้นักการเมืองตุรกีจัดการชุมนุม เนื่องจากกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตุรกีจะลุกลามไปยังชุมชนชาวเติร์กที่เข้าไปอาศัยอยู่ในประเทศของตน ตัวอย่างเช่นในเนเธอร์แลนด์นั้นมีชาวตุรกีอาศัยอยู่ถึงราว 400,000 คน กับอีก 1.5 ล้านคนในเยอรมนี
เมื่อค่ำวันจันทร์ คริสเตียน เคิร์น นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ระบุว่า จะพยายามห้ามรัฐมนตรีตุรกีจัดการชุมนุมในออสเตรียเช่นเดียวกัน เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยของประชาชน
ทางด้านรัฐบาลแดนกังหันลมอธิบายว่า การเดินทางมาของรัฐมนตรีตุรกีถือเป็นจังหวะเวลาที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเนเธอร์แลนด์กำลังจะจัดการเลือกตั้งในวันพุธ (15) ซึ่งโพลล์ระบุว่า รัฐบาลอาจเสียที่นั่งครึ่งหนึ่งในสภาให้พรรคต่อต้านอิสลามของ เกิร์ต วิลเดอร์ส
เหตุการณ์ในวันจันทร์ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ผู้แทนดัตช์ถูกเรียกเข้าพบ นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาจากกรณีความขัดแย้งนี้ กระทรวงต่างประเทศตุรกียังแถลงด้วยว่า ไม่ต้องการให้เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์กลับไปยังตุรกีในระยะนี้