รอยเตอร์ - เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันจันทร์ (13 มี.ค.) ก้าวผ่านอุปสรรคสุดท้ายของการเริ่มต้นเจรจาเบร็กซิต หลังรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายมอบอำนาจให้เธอเริ่มกระบวนการถอนตัวจากอียู
สมาชิกสภาล่างโหวตปฏิเสธการแก้ไขร่างกฎหมายที่เสนอโดยสภาสูงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังรัฐบาลโต้แย้งว่าพวกเขาต้องการเสรีภาพในการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงที่ดี โดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ
แม้มีความพยายามจากพวกลิเบรัล เดโมแครต ในสภาสูง (สภาขุนนาง) ที่มาจากการแต่งตั้ง ในการรื้อฟื้นเงื่อนไขต่างๆ แต่สภาล่างก็ลงมติเห็นชอบโดยไม่ได้แก่ไขใดๆ ในช่วงกลางดึกของวันจ้นทร์ (13 มี.ค.)
“ตอนนี้เราอยู่ตรงทางเข้าของโต๊ะเจรจาที่สำคัญที่สุดสำหรับประเทศในยุคนี้” เดวิด เดวิส รัฐมนตรีเบร็กซิตระบุในถ้อยแถลง “เพราะฉะนั้น เราจะประกาศใช้มาตรา 50 ในช่วงสิ้นเดือนตามแผน และมุ่งมั่นทำงานเพื่อผลลัพธ์ในประโยนช์แก่สหราชอาณาจักรทั้งมวล”
เวลานี้ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งไปให้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ลงพระปรมาภิไธย เพื่อเห็นชอบทางสัญลักษณ์อย่างเร็วที่สุดในตอนเช้าวันอังคาร (14 มี.ค.) เปิดทางให้ เมย์ เตรียมเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งการเจรจา 2 ปี ที่กำหนดอยู่ในมาตรา 50 แห่งสนธิสัญญาลิสบอนของอียู
อย่างไรก็ตาม โฆษกของเมย์ แย้มในวันอังคาร (14 มี.ค.) ว่าเเธออาจจะเริ่มต้นกระบวนการในช่วงปลายเดือน
ภาระของเธอในการเจรจาถอนสหราชอาณาจักรออกจากอียู ต้องประสบปัญหายุ่งยากซับซ้อนขึ้นมาในวันจันทร์ (13 มี.ค.) หลัง นิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีหญิงสกอตแลนด์ เรียกร้องจัดทำประชามติแยกตัวเป็นอิสระรอบใหม่ในช่วงปลายปี 2018 หรือต้นปี 2019 เมื่อครั้งที่เงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักรมีความชัดเจนแล้ว