เอเจนซีส์ /MGR ออนไลน์ - รมว.ครอบครัวเติร์ก ฟัตมา เบตุล ซายัน กายา (Fatma Betul Sayan Kaya) ที่ถูกตำรวจดัตช์นำตัวส่งบริเวณพรมแดนติดเยอรมนีเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) กลับถึงตุรกีแล้ว ประณามอัมสเตอร์ดัมไม่ไว้หน้าทั้งๆ ที่มีภูมิคุ้มกันทางการทูตติดตัว ลั่นจะเข้า “เมืองร็อตเตอร์ดัม” อีกหน รณรงค์ประชามติแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญเติร์กช่วย ปธน.แอร์โดอันรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ ด้านนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กเดินตามรอยดัตช์ เลื่อนกำหนดนายกรัฐมนตรีตุรกี บินาลี ยิลดิริม (Binali Yildirim) เข้าพบ สกัดอังการาใช้ยุโรปเป็นเวทีหาเสียงเพิ่มอำนาจตัวเอง
RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ว่าปัญหาความไม่พอใจระหว่างตุรกีและเนเธอร์แลนด์กลายเป็นเรื่องที่นำไปสู่การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดัตช์ ที่ต้องออกแรงส่งตัวรัฐมนตรีหญิงเติร์กจากหน้าสถานกงสุลในเมืองร็อตเตอร์ดัม ออกไปพ้นพรมแดน หลังจากอังการาต้องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญของตุรกีเพื่อกระชับอำนาจให้กับประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ตัยยิป แอร์โดอัน และได้ใช้รัฐมนตรีของตัวเองเดินทางเข้ายุโรป เพื่อใช้พื้นที่ประเทศเหล่านั้นเป็นเวทีหาเสียงหว่านล้อมพลเมืองชาวเติร์กที่อาศัยอยู่ในยุโรปให้เห็นคล้อยตาม
ซึ่งพบว่านอกจากเมืองร็อตเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์แล้ว สวีเดนกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เออร์โดวานมีเป้าหมายส่งคนไปหาเสียง แต่ทว่าได้ถูกสตอกโฮล์มปฏิเสธให้มีการจัดงาน โดยหนังสือพิมพ์โดวานของตุรกีรายงานว่า การหาเสียงสนับสนุนประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญตุรกีในกรุงสตอกโฮล์มที่มีมีกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ (12 ) ถูกสั่งห้ามไม่ให้จัดจากสวีเดน
ในขณะที่รัฐมนตรีหญิงกระทรวงครอบครัวตุรกี ฟัตมา เบตุล ซายัน กายา (Fatma Betul Sayan Kaya) ที่โด่งดังไปทั่วโลก เนื่องมาจากในความพยายามจะเข้าเมืองร็อตเตอร์ดัม โดยเธอเลือกใช้ช่องทางบกเข้าสู่เนเธอร์แลนด์ผ่านทางพรมแดนเยอรมนีแทนที่จะเลือกบินเข้า หลังจากก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีดัตช์ มาร์ก รัตต์ ออกคำสั่ง “ห้ามเครื่องบินของรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี เมฟลุต คาวูโซกลู ลงจอดในเนเธอร์แลนด์” เกรงจะเข้ามาทำให้เกิดความยุ่งยาก โดยเนเธอร์แลนด์จะมีการจัดเลือกตั้งรัฐสภาทั่วประเทศในสัปดาห์นี้
สื่อรัสเซียรายงานต่อว่า และหลังจากที่กายาเดินทางกลับมาถึงเมืองอิสตันบูลแล้ว โดยมีภาพเธอได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลามในระหว่างที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองโคโลญของเยอรมนี โดยพบว่ามีผู้รอต้อนรับเธอตลอดสองข้างทางโดยมีธงชาติตุรกีสีแดงเรียงเป็นแนวยาวขนาบขบวนรถสีดำของรัฐมนตรีหญิง
ซึ่งทางหนังสือพิมพ์อนาโดลูได้รายงานถึงประโยคแรกแสดงความรู้สึกของกายา ในการถูกรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้ฝูงตำรวจนำตัวเธอกลับส่งบริเวณพรมแดนติดเยอรมนีว่า เป็นเรื่องที่หยาบคาย และไม่ให้เกียร์ติแก่ตัวเธอซึ่งถือว่า มีภูมิคุ้มกันทางการทูต
โดยรัฐมนตรีหญิงตุรกีได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจดัตช์ได้ควบคุมตัวแทนอังการาทั้งหมดรวมไปถึงอุปทูตตุรกี และที่ปรึกษารัฐมนตรี และอีก 5 คนจากหน่วยรักษาความปลอดภัยลับของเธอ
“พวกเราถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจ และต้องอยู่ที่นั่นร่วม 1 ช.ม ครึ่ง และยังถูกปฏิบัติที่แย่มาก และไม่มีการให้เกียรติแม้แต่น้อย” กายากล่าว
และกายายังกล่าวให้ความเห็นต่อไป โดยอ้างถึงความเป็นสตรีของเธอในการถูกเลือกปฏิบัติภายในดินแดนยุโรปว่า “พวกยุโรปมีทัศนคติที่แย่มากต่อรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านวันสตรีโลกมาเพียง 3 วันเท่านั้น”
นอกจากที่รัฐมนตรีครอบครัวตุรกีของแอร์โดอันจะอ้างว่า ตัวเธอมีเอกสิทธิ์ทางการทูตแล้ว เธอยังโยงไปถึงสถานที่จัดงานรณรงค์การลงประชามติว่า ถูกจัดภายในเขตของสถานกงสุลตุรกี ทึ่ถือโดยตามกฎหมายแล้ว นั้นเป็นดินแดนของตุรกี โดยกายากล่าวว่า “พื้นที่ตรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรตุรกี และทางเราไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเพื่อเข้าไป”
กายายังยืนกรานต่อว่า “คุณค่าความเป็นประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนต้องถูกละเมิดภายใต้ฝ่าเท้า” จากการที่ตัวแทนของอังการาทั้งหมด ถูกบังคับด้วยกำลังในการควบคุมตัวนำไปส่งเข้าพรมแดนเยอรมัน ใกล้หมู่บ้านนิจเมเกน( Nijmegen)
RT รายงานเพิ่มเติมว่า ในทันทีที่ประธานาธิบดีตุรกี เรเซป ตัยยิป แอร์โดอัน ได้ประทับตราเนเธอร์แลนด์ว่า “เป็นนาซี” แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจตุรกีได้ทำการล้อมสถานทูตดัตช์ประจำตุรกี และรวมไปถึงกงสุลดัตช์ทันที ส่งผลทำให้ในเวลาเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ออกแถลงการณ์ด่วนในวันอาทิตย์ (12 ) เตือนให้อังการาต้องรับผิดชอบต่อเจ้าหน้าที่การทูตดัตช์ทุกชีวิตในตุรกี ในขณะที่เอกอัครราชทูตดัตช์ประจำตุรกี ที่ในขณะนี้บังเอิญอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับเนเธอร์แลนด์สำหรับช่วงเวลาการพักผ่อน ได้ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางกลับไปทำหน้าที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
โดยในรายงานของรอยเตอร์ กระทรวงต่างประเทศดัตช์ได้ออกแถลงการณ์ความว่า “เนื่องจากในเวลานี้สถานการณ์ยังสับสน เจ้าหน้าที่ตุรกีมีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของสถานทูตเนเธอร์แลนด์ในตุรกี ซึ่งทางเราได้ยื่นข้อร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตุรกีแล้ว”
ทั้งนี้ สื่อรัสเซียชี้ว่า กระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ออกแถลงการณ์ขึ้น หลังจากไม่นานก่อนหน้านั้นกลุ่มผู้ประท้วงเติร์กที่รวมตัวด้านหน้าสถานกงสุลดัตช์ในเมืองอิสตันบูล ได้ทำการดึงธงชาติดัตช์ที่อยู่ด้านนอกสถานทูตลง และเปลี่ยนเป็นธงชาติเติร์กแทน
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี คาวูโซกลู ที่ถูกปฏิเสธห้ามนำเครื่องบินลงจอดในเนเธอร์แลนด์ ได้ส่งเสียงออกมาตอบโต้ว่า ตุรกีต้องการคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากเนเธอร์แลนด์
โดยสื่อตุรกี เฮอร์ริเย็ต รายงานคำแถลงของคาวูโซกลูว่า “ทางเราจะเริ่มต้นกระบวนการตอบโต้” และประกาศต่อว่า “นักการทูตดัตช์ไม่ควรเดินทางเข้าตุรกี และเขาไม่สามารถทำได้ พวกเราจะเริ่มมาตรการ หาไม่เนเธอร์แลนด์ต้องยื่นขออภัย หรือเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมาตรการตอบโต้จากทางตุรกี”
ในภายหลัง ผู้นำดัตช์ประกาศว่า “ผมไม่เคยประสบอะไรเช่นนี้มาก่อน แต่ดูเหมือนเราต้องมีความอดทนมากกว่านี้” รอยเตอร์ชี้ ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี เป็น 2 ประเทศที่ประกาศออกมาอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาไม่ต้องการให้ตุรกีใช้โอกาสเข้ามาหาเสียงทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของอังการา
รอยเตอร์รายงานในวันเสาร์ (11 มี.ค.) ว่า เครื่องบินของรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีได้เปลี่ยนแผนร่อนลงจอดยังท่าอากาศยาน Metz–Nancy–Lorraine ในฝรั่งเศสเมื่อวันเสาร์(12 มี.ค)แทน หลังจากที่ถูกนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ รัตต์ ไม่อนุญาตให้เครื่องบินของเขาแลนดิง เนื่องมาจากเกรงจะเกิดปัญหา และทำให้คาวูโซกลูต้องยกเลิกกำหนดร่วมรณรงค์ประชามติที่ถูกจัดขึ้นภายในสถานทูตตุรกีประจำเนเธอร์แลนด์
ทั้งนี้ สปูนิกนิวส์ สื่อรัสเซียรายงานโดยอ้างจากรายงานของหนังสือพิมพ์เติร์ก เดลี ซาบาห์ ระบุว่า มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสถึงการเยือนของคาวูโซกลูเมืองเมตซ์ (Metz) ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งกำหนดการประชุมจะเริ่มในเวลา 11.00 GMT. ในวันอาทิตย์ (12)
โดยในการประชุมนั้นได้ถูกจัดขึ้นภายในห้องประชุมโดยเอเอฟพีชี้ว่า เป็นการประชุมที่มีสมาพันธ์เติร์กเป็นองค์กรจัดงานนี้ ซึ่งเป็นงานที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการรณรงค์การลงประชามติในเดือนเมษายนของตุรกี
ในขณะเดียวกัน เดนมาร์กกลายเป็นอีกประเทศที่ไม่ต้องการให้มีความยุ่งยากเกี่ยวข้องกับตุรกี เหมือนเช่นกับที่เกิดกับเนเธอร์แลนด์
ในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ของนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ลาร์ส เลิกเกอ รัสมุสเซิน (Lars Lokke Rasmussen) เขาประกาศเลื่อนกำหนดการหารือกับนายกรัฐมนตรีตุรกี บินาลี ยิลดิริม (Binali Yildirim) ออกไป โดยกล่าวว่า “จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการเข้ามายุ่งเกี่ยวของตุรกีในเนเธอร์แลนด์ ทำให้มองไปได้ว่าการพบปะนั้นอาจเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นผมขอประกาศการเลื่อนกำหนดการพบปะหารือกับเพื่อนนายกรัฐมนตรีตุรกีของผมออกไป”
