รอยเตอร์ - เกิดเหตุรถบัสพุ่งชนขบวนพาเหรดในเฮติจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ศพเมื่อวันเสาร์ (11 มี.ค.) หลังจากที่คนขับพยายามเร่งความเร็วหนีจากอุบัติเหตุชนคนตายที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
โจเซฟ ฟอสติน หัวหน้าสำนักงานป้องกันพลเรือนประจำจังหวัดอาร์ติบอนิต ระบุว่า รถบัสซึ่งเดินทางจาก แคป เฮเทียน เพื่อไปยังกรุงปอร์โตแปรงซ์ได้ขับชนเหยื่อ 2 รายที่นอกเมืองโกแนอีฟส์ (Gonaives) ทางตอนเหนือ จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากนั้นคนขับได้เร่งความเร็วหนีจากจุดเกิดเหตุ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ฝูงชนในขบวนพาเหรดที่เมืองมาปู (Mapou) ห่างจากจุดเดิมไปประมาณ 5 กิโลเมตร
ขบวนพาเหรด “รารา” ซึ่งมักจัดขึ้นในช่วงเทศกาลอีสเตอร์จะมีคณะนักดนตรีบรรเลงเครื่องดนตรีท้องถิ่น และชาวบ้านในชุมชนก็จะออกมาร่วมสนุกด้วย
อุบัติเหตุครั้งหลังซึ่งเกิดขึ้นในเวลาราว 4.00 น. ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีถึง 34 ราย และอีก 4 คนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
“โดยปกติแล้วคนขับรถที่ชนคนตายมักจะไม่จอด เพราะกลัวถูกโดนประชาทัณฑ์” เฟร็ด เฮนรี เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนหนึ่งให้สัมภาษณ์
ทั้งคนขับและผู้โดยสารบนรถบัสถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจ ทว่าคนทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว และคนขับก็หลบหนีลอยนวลไปเรียบร้อยแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่น ระบุ
อัลเบิร์ต มูเลียน โฆษกกระทรวงมหาดไทยเฮติ แถลงว่า หลังเกิดเหตุพวกนักดนตรีและชาวบ้านได้รุมขว้างปาก้อนหินใส่รถบัส รวมถึงรถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา ทำให้มีคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
ท้องถนนในเฮติขึ้นชื่อเรื่องความสับสนและอันตราย เนื่องจากทั้งผู้ขับขี่ยานพาหนะและคนเดินเท้าต่างไม่ใส่ใจกฎจราจรกันมากนัก