รอยเตอร์ - “พัค กึนฮเย” ประธานาธิบดีที่ถูกถอดถอนของเกาหลีใต้ ได้เดินทางออกจากทำเนียบประธานาธิบดี “บลูเฮาส์” ในวันอาทิตย์ (12) เพื่อกลับไปยังบ้านพักส่วนตัวของเธอ ทั้งยังอาจจะต้องถูกดำเนินคดีและจำคุก หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับรองการถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งเมื่อ 2 วันก่อนจากคดีทุจริตอื้อฉาว
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า หลังจากได้ร่ำลาเจ้าหน้าที่ของทำเนียบฯ พัคก็ได้ออกเดินทางไปด้วยขบวนรถสีดำที่มีมอเตอร์ไซค์ตำรวจขนาบข้าง โดยมุ่งหน้าไปยังบ้านพักส่วนตัวในเขตกังนัมของกรุงโซล ที่มีผู้ให้การสนับสนุนหลายร้อยคนโบกธงรออยู่
โดยก่อนหน้านั้น ตัวเก็งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้เพิ่งสัญญาจะขับเคลื่อนเกาหลีใต้ให้เป็นประเทศแห่งความยุติธรรมและสามัญสำนึก พร้อมดักคอ พัค กึน-ฮเย ว่าอย่าพยายามทำลายหรือเคลื่อนย้ายเอกสารออกจากทำเนียบประธานาธิบดี
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10) ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้วินิจฉัยยืนตามมติของรัฐสภาในการถอดถอนพัคออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีจากกรณีอื้อฉาวใช้อำนาจโดยมิชอบที่เขย่าแวดวงชนชั้นสูงทั้งด้านการเมืองและธุรกิจ โดยจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ในวันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึง
วันอาทิตย์ (12) มุน แจ-อิน นักการเมืองเสรีนิยมที่สนับสนุนการปรองดองกับเกาหลีเหนือและเป็นตัวเก็งผู้นำใหม่ของเกาหลีใต้ในผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด เปิดแถลงข่าวโดยบอกว่า ยังมีภารกิจอีกยาวไกลในการทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศแห่งความยุติธรรมและสามัญสำนึกผ่านการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และขอให้ประชาชนร่วมมือกันเพื่อชัยชนะที่สมบูรณ์
พัค วัย 65 ปี เป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอน ภายหลังช่วงเวลาหลายเดือนที่การเมืองเป็นอัมพาตและเต็มไปด้วยความวุ่นวายจากเรื่องอื้อฉาวที่พัวพันไปถึงประธานซัมซุง กรุ๊ป ที่เมื่อเร็วๆ นี้ถูกจับกุมและเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดี
พัคไม่ได้ไปปรากฏตัวที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันศุกร์ และเก็บตัวเงียบกริบในทำเนียบสีฟ้า จนกระทั่งมีการเดินทางออกมาในวันอาทิตย์
พัคเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ และเป็นบุตรสาวของอดีตผู้นำเผด็จการทหารในยุคสงครามเย็น พัค ชุง-ฮี เธอจำใจทำหน้าที่สตรีหมายเลขหนึ่งหลังจากมารดาถูกลอบสังหารในปี 1974
พ่อของพัคที่เข้ายึดอำนาจในปี 1961 ปกครองประเทศยาวนานถึง 18 ปีจนกระทั่งถูกลอบสังหารในปี 1979
หลังจากหมดสิ้นความคุ้มครองจากตำแหน่งประธานาธิบดี พัคอาจถูกตั้งข้อหาจากการติดสินบน การขู่กรรโชก การใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งเกี่ยวพันกับข้อกล่าวหาสมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนสนิท ชอย ซุน-ซิล อย่างไรก็ดี ทั้งคู่ยังคงยืนกรานปฏิเสธความผิดทั้งหมด
เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า พัคเตรียมออกจากทำเนียบสีฟ้าก่อนเวลา 18.00 น. (16.00 น. ตามเวลาไทย) และจะย้ายกลับไปยังบ้านพักส่วนตัวที่อยู่ในกรุงโซล หลังจากร่ำลาเจ้าหน้าที่ในทำเนียบประธานาธิบดี
ก่อนหน้านั้น สื่อรายงานจากหน้าบ้านพักส่วนตัวของพัคในกังนัม ซึ่งเป็นย่านชนชั้นสูงว่า ช่างกำลังปรับปรุงบ้านหลังดังกล่าว และต่อมามีภาพข่าวทางทีวีเผยให้เห็นรถตู้คันหนึ่งขนกล่องเฟอร์นิเจอร์เข้าไปภายในบ้าน ขณะที่ด้านนอกบ้านมีผู้สนับสนุนหลายร้อยคนไปรวมตัวกันอยู่
มุนเรียกร้องให้พัคออกมายอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แม้อาจเป็นการโหดร้ายที่บีบให้อดีตประธานาธิบดีออกจากทำเนียบสีฟ้าขณะที่ยังต้องจัดเตรียมบ้านพักส่วนตัว แต่ก็เตือนว่าพัคไม่ควรพยายามทำลายหรือเคลื่อนย้ายเอกสารเมื่อย้ายออกจากทำเนียบ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บรรดากลุ่มต่อต้านพัคนับพันคนชุมนุมกันในกรุงโซลเหมือนเช่นที่เป็นมาทุกสุดสัปดาห์ต่อเนื่องมาหลายเดือน เพื่อฉลองคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญและเรียกร้องให้จับกุมพัค
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนพัครวมตัวกันในถนนที่ไม่ไกลจากนั้น แม้มีจำนวนน้อยกว่าก็ตาม ด้านตำรวจในชุดปราบจลาจลเตรียมพร้อมเต็มที่ แต่ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด
ผู้ประท้วงที่เป็นฝ่ายสนับสนุนพัคได้เสียชีวิต 2 ราย ขณะพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจหน้าศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันศุกร์ โดยคนหนึ่งนั้นเชื่อว่ามีอาการหัวใจวาย ส่วนอีกคนเสียชีวิตขณะที่ผู้ประท้วงโจมตีรถบัสที่ตำรวจใช้เป็นแนวกั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ประท้วงคนที่ 3 เป็นชายวัย 74 ปี หัวใจวายตายเมื่อวันเสาร์