เอเจนซีส์ - “เอฟบีไอ” เปิดฉากสอบสวนกรณี “วิกิลีกส์” เผยแพร่ข้อมูลที่ฟ้องว่าหน่วยข่าวกรองมะกันแฮกสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลเพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้ ขณะที่ “ซีไอเอ” เองโจมตีเว็บไซต์จอมแฉแห่งนี้ว่าทำให้อเมริกาตกอยู่ในอันตราย เวลาเดียวกันนั้น พวกเจ้าหน้าที่วงในแย้มว่าพนักงานสัญญาจ้างอาจอยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของข้อมูลลับครั้งมโหฬารคราวนี้ ด้านบริษัทไฮเทคที่ถูกแอบล้วงข้อมูล ทั้งแอปเปิล ซัมซุง กูเกิล เรียงแถวชี้แจงเพื่อคลายความกังวลของลูกค้า
ฮีทเธอร์ ฟริตซ์ ฮอร์เนียก โฆษกหญิงสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) แถลงในวันพุธ (8 มี.ค.) ว่า การเปิดเผยของวิกิลีกส์มีเป้าหมายบ่อนทำลายความสามารถของหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ในการปกป้องอเมริกาจากผู้ก่อการร้ายและศัตรูอื่นๆ และย้ำว่า ตามกฎหมายนั้นซีไอเอไม่สามารถสอดแนมประชาชนในสหรัฐฯ ได้อยู่แล้ว
“การเปิดเผยดังกล่าวไม่เพียงทำให้เจ้าหน้าที่และปฏิบัติการของอเมริกาตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น แต่ยังใส่พานเครื่องมือและข้อมูลให้ศัตรูมาทำร้ายเรา” ฮอร์เนียกยังปกป้องการปฏิบัติการในไซเบอร์สเปซว่า ซีไอเอมีหน้าที่ในการคิดอย่างสร้างสรรค์และล้ำสมัย และเป็นด่านแรกในการปกป้องประเทศจากศัตรูต่างชาติอย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ดี โฆษกหญิงซีไอเอไม่ได้ยืนยันว่าเอกสารที่วิกิลีกส์นำมาเผยแพร่เป็นเอกสารจริงหรือไม่
ขณะที่ ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กังวลกับเรื่องนี้มาก และสำทับว่า ผู้ที่ปล่อยข้อมูลนี้จะถูกลงโทษตามกฎหมายในระดับรุนแรงที่สุด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันอังคาร (7) วิกิลีกส์ได้เปิดเผยเอกสารเกือบ 9,000 ชุดที่เว็บไซต์แห่งนี้ระบุว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเอกสารกองใหญ่ที่รั่วไหลจากซีไอเอ และยังคุยว่านี่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลลับสุดยอดครั้งใหญ่ที่สุดของตัวเอง
เอกสารดังกล่าวฟ้องว่า แฮกเกอร์ของซีไอเอมีความสามารถที่จะเข้าถึงสมาร์ทโฟนและแก็ดเจ็ตอื่นๆ เพื่อบันทึกข้อความตัวอักษรและข้อความเสียง ก่อนที่ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเข้ารหัสด้วยซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน รวมทั้งให้รายละเอียดว่า แทนที่จะแจ้งข้อมูลให้ผู้ผลิตหรือผู้พัฒนานำไปแก้ไข ซีไอเอกลับอาศัยจุดอ่อนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อดูดข้อมูลของผู้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลของแอปเปิลและซัมซุง โทรศัพท์แอนดรอยด์ ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ และเราเตอร์จากผู้ผลิตรายใหญ่จำนวนมาก
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริง ขณะที่สื่ออเมริกันรายงานเมื่อวันพุธ (8) ว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กำลังเปิดการสอบสวนเรื่องนี้
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า การสอบสวนของเอฟบีไอจะพุ่งประเด็นไปที่ว่า ซีไอเอหละหลวมเองใช่หรือไม่ หรืออาจจะเป็น “การล่าคนขายชาติครั้งใหญ่” ซึ่งหมายถึงผู้ประสงค์ร้ายที่ปล่อยข่าวกรองออกไป หรือว่าเป็นหนอนบ่อนไส้ภายในซีไอเอเอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด้านข่าวกรองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ประสงค์ออกนาม 2 คนเผยกับสื่อว่า มีแนวโน้มว่าพนักงานสัญญาจ้างอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และว่า หน่วยงานด้านข่าวกรองระแคะระคายเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งยังบอกว่า บริษัทต่างๆ ที่ทำสัญญารับจ้างทำงานให้ซีไอเอกำลังตรวจสอบว่าพนักงานคนใดสามารถเข้าถึงข้อมูลที่วิกิลีกส์นำออกมาเผยแพร่ จากนั้นจะตรวจสอบบันทึกในคอมพิวเตอร์ อีเมล และการสื่อสารอื่นๆ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
นอกจากนี้แ หล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับวิกิลีกส์ยังเปิดเผยว่า เว็บไซต์นี้ได้ข้อมูลนี้มาหลายเดือนแล้ว และใช้เวลาเตรียมการเพื่อเผยแพร่ “นานมาก”
วิกิลีกส์เองนั้นระบุว่า หน่วยจัดเก็บถาวรที่จัดเก็บเอกสาร เครื่องมือแฮก และรหัสของซีไอเอ หลุดรอดออกมาและเผยแพร่อยู่ในหมู่แฮกเกอร์ที่เจาะระบบข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ และพนักงานสัญญาจ้างเอกชน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้นำข้อมูลส่วนหนึ่งมาแบ่งปันให้
วิกิลีกส์ที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ กระอักกระอ่วนมาหลายครั้งจากการเปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดทั้งด้านการเมือง การทูต และข่าวกรอง ระบุว่า เอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (7) เป็นเพียงชุดแรกเท่านั้น ยังมีข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับกลวิธีการเจาะระบบของซีไอเอที่จะทยอยนำออกแฉอีกเป็นตั้ง
งานนี้ทำให้หน่วยงานด้านข่าวกรองของอเมริการะทึก เนื่องจากเกรงว่าวิกิลีกส์อาจนำเครื่องมือแฮกตัวจริงออกมาโชว์ และน่าเป็นห่วงว่าเครื่องมือดังกล่าวอาจตกไปอยู่ในมือศัตรูของอเมริกาหรืออาชญากร
ขณะเดียวกัน บรรดาบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ถูกซีไอเอแฮกต่างทยอยออกมาชี้แจงเรื่องนี้เมื่อวันพุธ (8) เริ่มจากแอปเปิลที่แถลงผ่านอีเมลยืนยันว่าข้อบกพร่องหลายอย่างที่เอกสารลับพาดพิงถึง บริษัทแก้ไขแล้วในระบบปฏิบัติการ iOS ล่าสุด และบริษัทจะเดินหน้าแก้ไขข้อบกพร่องอื่นๆ โดยเร็วต่อไป
ด้านกูเกิลแสดงความมั่นใจว่าอัปเดตและมาตรการความปลอดภัยทั้งในโครมและแอนดรอยด์สามารถปกป้องผู้ใช้จากความเสี่ยงจำนวนมากที่ระบุในเอกสารลับของวิกิลีกส์ และบริษัทจะยังคงดำเนินการมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่จำเป็นเพิ่มเติม
ส่วนซัมซุงและไมโครซอฟท์ระบุว่า กำลังตรวจสอบเอกสารที่รั่วไหลดังกล่าว
โจเซฟ ฮอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเซ็นเตอร์ ฟอร์ ดิโมเครซี แอนด์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์ปกป้องสิทธิในระบบดิจิตอล แสดงความเห็นว่า เอกสารจากวิกิลีกส์ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับคำสัญญาของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วว่า จะเปิดเผยข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยที่ค้นพบต่อบริษัทเทคโนโลยี เพื่อให้บริษัทนั้นๆ แก้ไขทันที ไม่ใช่ปิดบังเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องดังกล่าว