เอเจนซีส์ – บาห์เรนเดิหน้าขอศาลยุบพรรคการเมืองฝ่ายค้านหลักที่เหลือ กลุ่มวา-อัด(wa’ad) และส่งคดีพลเรือนจำนวนหนึ่งขึ้นศาลทหาร หลังล่าสุดวันจันทร์(6 มี.ค)กระทรวงยุติธรรมบาห์เรนได้ยื่นเรื่องโดยอ้างเหตุเป็นภัยทางความมั่นคง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(6 มี.ค)ว่า เป็นอีกครั้งที่บาห์เรนที่ถูกปกครองด้วย สมเด็จพระราชาธิบดีฮะมัด บิน อีซา อัลเคาะลีฟะฮ์(King Hamad bin Isa al-Khalifa) ถูกกล่าวหาว่า จำกัดเสรีภาพทางความคิดเห็น และรวมถึงเสรีภาพการร่วมกลุ่ม และการประชุม นับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างออกมาชี้ว่า บาห์เรนยังคงมีการทารุณ และการละเมิดเกิดขึ้น โดยเฉพะภายในระบบเรือนจำของประเทศที่อื้อฉาว
ทั้งนี้ในวันจันทร์(6 มี.ค) กระทรวงยุติธรรมบาห์เรนได้ยื่นฟ้องต่อศาลให้ออกคำสั่งยุบพรรคการเมืองฝ่ายค้านใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยอ้างว่าเป็นภัยความมั่นคงประเทศ สำนักข่าวทางการบาห์เรนรายงาน
โดยในแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมบาห์เรนชี้ว่า “กลุ่มเนชันแนล เดโมเครติก แอ็กชัน โซไซตี (National Democratic Action Society) หรือกลุ่มวา-อัด(wa’ad) ได้กระทำด้วยเป้าหมายต้องการละเมิดหลักนิติรัฐ สนับสนุนการก่อการร้ายและความรุนแรง ด้วยการยกย่องกลุ่มคนที่ถูกจับกุมในคดีก่อการร้าย”
ทั้งนี้พบว่าในปีที่ผ่านมา ทางบาห์เรนได้ทำการยุบพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่รู้จักในนามกลุ่มอัล-เวฟาค( al-Wefaq )และถอดความเป็นพลเมืองของศานจารย์ผู้นำนิกายชีอะห์ของบาห์เรน สื่ออังกฤษรายงาน
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(5 มี.ค) วุฒิสภาบาห์เรนได้อนุมัติการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่บรรดานักวิจารณ์ต่างออกมาตำหนิว่า อาจนำไปสู่การที่บาห์เรนจะต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองด้วยกฎอัยการศึกอย่างไม่เป็นทางการ ที่จะเห็นพลเรือนต้องถูกส่งตัวขึ้นศาลทหารในคดีที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ
เดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า ในเดือนที่ผ่านมาเป็นการฉลองครบรอบการลุกขึ้นสู้ปีที่ 6 และนำไปสู่ความรุนแรง โดยทางเจ้าหน้าที่บาห์เรนอ้างว่า สามารถค้นพบเซลก่อการร้ายในปฎิบัติการกวาดล้างอย่างรุนแรงไม่ต่ำกว่า 50 ครั้งหลายจุดทั่วประเทศ
และนอกจากนี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยังมีการเดินขบวนประท้วงบนถนนที่ชายมุสลิมชีอะห์ 3 คนถูกจับกุมจากข้อหาสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ 1 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาห์เรน 2 นายในปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดระเบิดขึ้น
โดยทางการบาห์เรนได้กล่าวหาอิหร่านที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความรุนแรงภายในบาห์เรน แต่เป็นข้อกล่าวหาที่เตหะรานปฎิเสธ
สื่ออังกฤษรายงานว่า 3 เดือนก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษ เทเรซา เมย์ ได้เยือนบาห์เรนอย่างเป็นทางการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทหารและการค้าให้แนบแน่นมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาอังกฤษมีความพยายามในการให้ทุนเพื่อก่อตั้งหน่วยงานผู้ตรวจการตำรวจบาห์เรนขึ้น แต่ทว่าต้องยกเลิกไปในปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายงานสิทธิมนุษยชนประจำปีได้ออกมาเปิดเผยว่า อาจจะทำให้เกิดความกังวลหากตั้งหน่วยงานแห่งนี้ขึ้นในประเทศบาห์เรน