เอพี - กระทรวงการคลังจีนระบุในวันอาทิตย์ (5) ว่างบประมาณกลาโหมปีนี้จะทะลุหลัก 1 ล้านล้านหยวน (145,000 ล้านดอลลาร์) เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดในรอบศตวรรษ ขณะเดียวกันผู้นำจีนลดเป้าหมายการเติบโตของปีนี้ พร้อมเตือนอันตรายจากแรงกดดันด้านการค้าจากภายนอก รวมถึงแนวโน้มลัทธิกีดกันการค้าและทิศทางนโยบายที่ไร้ความแน่นอนของประเทศชั้นนำ ขณะที่หนี้สาธารณะของจีนเองก็เบ่งบานจนอาจเป็นภัยคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4) ฟู่ อิง โฆษกสภาประชาชนแห่งชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า งบประมาณกลาโหมปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว 7% ถือเป็นเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบศตวรรษนี้
ต่อมาในวันอาทิตย์ (5) เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของกระทรวงการคลังจีนได้บอกกับสำนักข่าวเอพีว่า มีการเปิดเผยตัวเลขที่แน่นอนกับตัวแทนเกือบ 3,000 คนในสภาประชาชนแห่งชาติก่อนหน้านี้แล้ว ว่าตัวเลขที่ชัดเจนคือ 1.044 ล้านล้านหยวน (151,000 ล้านดอลลาร์) แต่ไม่ได้บอกว่าเหตุใดงบประมาณกลาโหมจึงไม่ปรากฏในรายงานงบประมาณของรัฐบาลอย่างที่เคยเป็นมา
อเมริกาและหลายชาติต่างเรียกร้องให้จีนเปิดเผยเป้าหมายโครงการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น หลังจากที่แดนมังกรเพิ่มงบกลาโหมในอัตราเลขสองหลักทุกปีมาเกือบตลอดสองทศวรรษ ผู้สังเกตการณ์บางคนยังเชื่อว่ามูลค่าการใช้จ่ายจริงน่าจะสูงกว่าที่แดนมังกรเปิดเผย
จีนนั้นเป็นประเทศที่อัดฉีดงบกลาโหมสูงสุดอันดับ 2 ของโลก ทว่างบกลาโหมของจีนยังมีสัดส่วนเพียง 1 ใน 4 ของอเมริกาเท่านั้น แต่ปักกิ่งไม่เคยแจกแจงว่าจัดสรรงบนี้ไปทำอะไรบ้าง บอกแต่เพียงว่าส่วนใหญ่ใช้ยกระดับสภาพชีวิตทหาร
ขณะเดียวกัน ในวันอาทิตย์ (5) นายกรัฐมนตรี หลี่ เคอะเฉียง ได้แถลงต่อสภาประชาชนฯ ว่า จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดการผลิตเหล็กที่มากเกิน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้ากับวอชิงตันและยุโรปตึงเครียด รวมทั้งจะปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติอย่างเป็นธรรม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการคลายกระแสร้องเรียนว่าปักกิ่งพยายามขับบริษัทต่างชาติออกจากตลาดเทคโนโลยีและตลาดอื่นๆ ที่มีอนาคต
ผู้นำจีนยังกำหนดเป้าหมายการเติบโตของประเทศในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 6.5% หากเป็นไปได้ หรือลดลงจาก 6.7% ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากทำได้ตามเป้าจะถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเข้มแข็งที่สุด และสะท้อนว่าความพยายามในการสร้างอุตสาหกรรมแขนงใหม่ๆ กำลังไปได้ดี
รายงานของหลี่เรียกร้องการสร้างงานใหม่ๆ 11 ล้านตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 10 ล้านตำแหน่งในปี 2016 รวมทั้งให้สัญญาว่ารัฐบาลจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น ลดภาษีธุรกิจขนาดเล็กที่สุด และลดกระบวนการจดทะเบียนของบริษัทเอกชน
หลี่ยังเตือนถึงความเสี่ยงจากระดับหนี้สาธารณะ ที่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 260% ของมูลค่าเศรษฐกิจ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์หลายคนเห็นด้วยว่าเป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตของแดนมังกร กระนั้น ผู้นำจีนย้ำว่าระบบการเงินของจีนยังคงมีเสถียรภาพ
นายกรัฐมนตรีจีนไม่ได้ประกาศแผนการริเริ่มสำคัญใดๆ ซึ่งเป็นที่คาดหมายอย่างกว้างขวาง เนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์พยายามหลีกเลี่ยงการสร้างผลกระทบรุนแรงก่อนที่จะมีการประชุมสภาปลายปีนี้ ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำพรรคสมัยสองต่อไปอีก 5 ปี และนักวิเคราะห์คาดว่าผู้นำจีนต้องการใช้การประชุมสภาครั้งนี้เพื่อเน้นย้ำการลดความเสี่ยงทางการเงินและรักษาเสถียรภาพการเติบโต
หลี่ยังเตือนว่า ขณะที่อเมริกาและยุโรปเรียกร้องให้มีการควบคุมการค้า จีนกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้นทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการถดถอยจากระบอบโลกาภิวัตน์ และลัทธิกีดกันการค้าที่กำลังพลุ่งพล่าน นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่และผลกระทบที่จะตามมา
ในส่วนการเมืองนั้น หลี่เตือนว่าปักกิ่งจะไม่ยอมให้รัฐบาลไต้หวันดำเนินการใดๆ อันนำไปสู่การประกาศเอกราชโดยเด็ดขาด