รอยเตอร์ - รี จอง ชอล ผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือในคดีลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาผู้นำ คิม จอง อึน เผยกับสื่อที่กรุงปักกิ่งวันนี้ (4 มี.ค.) ว่า ตนตกเป็นเหยื่อ “แผนสมคบคิด” โดยทางการมาเลเซีย ซึ่งจงใจทำลายชื่อเสียงของรัฐคอมมิวนิสต์โสมแดง
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่สถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงปักกิ่ง รี จอง ชอล ยืนยันว่า เขาถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียข่มขู่ให้รับสารภาพ
คิม จอง นัม ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของอดีตผู้นำ คิม จอง อิล แห่งเกาหลีเหนือ ถูกลอบสังหารที่สนามบิน KLIA2 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยตำรวจมาเลเซียระบุว่าหญิงชาวเวียดนามและอินโดนีเซียได้ใช้ “สารวีเอ็กซ์” ละเลงเข้าที่ใบหน้าของเขา
วีเอ็กซ์เป็นสารพิษทำลายระบบประสาทที่มีฤทธิ์รุนแรงยิ่งกว่าแก๊สซาริน และถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขึ้นบัญชีเป็นอาวุธทำลายล้างสูง
การลอบสังหาร คิม ส่งผลให้มิตรภาพที่ยาวนานหลายสิบปีระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและเกาหลีเหนือเสื่อมทรามลงทันที
รี อ้างว่าตนไม่ได้อยู่ที่สนามบิน KLIA2 ในวันเกิดเหตุ และที่ตำรวจมาเลย์อ้างว่ารถของเขาถูกใช้ในการลอบสังหาร เขาก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
พลเมืองโสมแดงรายนี้ขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงปักกิ่งทันทีที่รัฐบาลมาเลเซียสั่งเนรเทศเนื่องจาก "หลักฐานไม่พอ" และกำลังเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่เกาหลีเหนือ
รี ถูกห้อมล้อมโดยกองทัพสื่อเกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งไปรอทำข่าวถึงสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่งเช้าวันนี้ (4) ทว่าตำรวจจีนได้ช่วยกันตัวเขาออกไปโดยไม่มีการสัมภาษณ์ใดๆ
รี บอกกับผู้สื่อข่าวที่สถานทูตโสมแดงว่า ตำรวจมาเลเซียอ้าง “หลักฐานเท็จ” และยังนำรูปถ่ายครอบครัวของเขาที่ถูกกักกันมาข่มขู่ให้ยอมรับผิด
“ผมรู้ทันทีว่านี่เป็นแผนสมคบคิด และเป็นแผนทำลายชื่อเสียงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี” รี กล่าว
หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าการตายของ คิม จอง นัม นั้นเป็นแผนลอบสังหารโดยสายลับโสมแดงอย่างแน่นอน