เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเปิดข้อมูลล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แอบทิ้งร่องรอยคดีรัสเซียยุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งสหรัฐฯในช่วงสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่จะเข้าทำงาน หวังให้หน่วยงานสอบสวนรัฐบาลกลางสหรัฐฯสามารถสาวต่อ สุดอึ้งพบพันธมิตรอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ส่งต่อหลักฐานเด็ดข้อมูลการพบลับระหว่างคนสนิทโดนัลด์ ทรัมป์ กับเจ้าหน้าที่รัสเซีย ที่มีคนใกล้ชิดประธานาธิบดีรัสเซียเข้าเกี่ยวข้องหลายครั้งในยุโรป
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวานนี้(1 มี .ค)ว่า แหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกมาเปิดเผยว่าในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะหมดอำนาจ คนทำเนียบขาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ใช้เวลาที่มีค่าในการเก็บรักษาข้อมูลการเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกตั้งสหรัฐฯของรัสเซีย และรวมไปถึงความเป็นไปได้ที่คนสนิทของผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ที่ชนะการเลือกตั้งอาจติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย ซึ่งแหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้เปิดเผยว่า เหตุผลเบื้องหลังมี 2 ประการ คือ (1) ต้อการให้แน่ใจว่ารัสเซียจะไม่สามารถเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสหรัฐฯในอนาคต และรวมไปถึงการเลือกตั้งในยุโรป และ(2) ทิ้งลายแทงข้อมูลข่าวกรองสำคัญอย่างเปิดเผยเพื่อให้ทางสำนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่มีหน้าที่ตรวจสอบสามารถติดตามได้ง่าย
และในรายงาน อดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ 3 รายได้ยืนยันว่า พันธมิตรสหรัฐฯ “อังกฤษ” และ “เนเธอร์แลนด์” ได้แอบส่งข้อมูลสำคัญกลับมาให้กับรัฐบาลโอบามา เกี่ยวข้องกับการพบกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัสเซียและคนสนิทของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และคนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ทั่วยุโรป
นอกจากนี้ หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯยังสามารถดักฟังการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่รัสเซียที่มีบางส่วนอยู่ในเครมสินได้ในการปรึกษาเกี่ยวข้องกับการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของทรัมป์
นิวยอร์กไทม์สรายงานต่อว่า แต่ทว่าทรัมป์กลับออกมายืนยันต่อสาธารณะ ปฎิเสธว่าคนของเขาไม่เคยติดต่อกับรัสเซีย พร้อมยังกล่าวหาหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ และกล่าวหารัฐบาลของโอบามาว่า พยายามจะทำลายรัฐบาลชุดใหม่ของตัวเอง และนั่นยิ่งเพิ่มความกลัวภายในทำเนียบขาวของโอบามาว่า เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือแล้ว หลักฐานสำคัญทางข่าวกรองอาจถูกปกปิด หรือที่แย่ไปกว่านั้น ถูกทำลายทิ้ง หรือการเปิดเผยชื่อแหล่งข่าวออกมา ส่งผลทำให้คนของโอบามาพยายามทุกวิถีทางในการเก็บซ่อนข้อมูลลับเหล่านั้นไว้ โดยทางทำเนียบขาวของโอบามาและหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯต่างเล็งเห็นถึงภัยคุกคามที่มาจากรัสเซีย
สิ่อสหรัฐฯรายงานต่อว่า ทำเนียบขาวชุดโอบามาตั้งข้อสงสัยว่า อาจเป็นไปได้ที่ทีมหาเสียงของทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับมอสโกในการแฮกอีเมลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่เป็นข้อสงสัยที่ทางอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯระบุว่า “ยังไม่สามารถยืนยันได้”
และในการให้สัมภาษณ์ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระดับสูงของโอบามายืนยันกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า ***ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ออกมาจากคำสั่งของโอบามาแต่อย่างใด***
และยิ่งใกล้วันสาบานตนของทรัมป์ คนในทำเนียบขาวของโอบามาลงความเห็นว่า ข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวข้องกับรัสเซียนี้เป็นเรื่องสำคัญ และต้องการให้หน่วยงานทั่วทั้งรัฐบาลกลางสหรัฐฯได้เห็นข้อมูลนี้มากที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีบางส่วนไม่สิทธิ์ที่จะเข้าถึงชั้นความลับระดับนี้ก็ตาม สื่อสหรัฐฯชี้ต่อ และทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้เริ่มดำเนินการตามแผน โดยการตั้งคำถามที่เจาะจงในรายงานสรุปข่าวกรอง เพราะรู้แก่ใจดีว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะต้องถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และสามารถถูกเปิดเผยได้ไม่ยากจากบรรดาผู้มีอำนาจในการสอบสวน ซึ่งรวมไปถึงคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้ประกาศการสอบสวนคดีรัสเซียพยายามเข้ามาชักนำการเลือกตั้งสหรัฐฯ
แผนการของทำเนียบขาวยังรวมไปถึงประชาคมหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ ที่พบว่าทางทำเนียบขาวสมัยโอบามาได้พยายามป้อนข้อมูลข่าวกรองดิบให้ได้มากที่สุดเข้าสู่ระบบ และได้กำหนดให้รายงานเหล่านั้นถูกจัดเก็บให้อยู่ในระดับชั้นความลับต่ำเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะมีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯทั่วทั้งทุกหน่วยงานของรัฐบาลกลางอเมริกาได้รับรู้ และในบางส่วนบางกรณี ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯร่วมรับทราบ ซึ่งพบว่าได้มีการอัพโหลดข้อมูลเข้าสู่อินเทลลิพีเดีย( Intellipedia) ที่คล้ายกับวิกีพีเดีย แต่เป็นสื่อกลางที่ใช้ระหว่างเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลในประชาคมหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ
แผนการของทำเนียบขาวในการฝังข้อมูลทรัมป์และรัสเซียยังรวมไปถึง การส่งข้อมูลไปยังรัฐสภาคองเกรส ที่พบว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้ส่งข้อมูลชุดใหญ่ที่ปิดป้าย “ความลับ” ไปยังสว. รัฐแมรีแลนด์ เบนจามิน คาร์ดิน(Benjamin Cardin) ก่อนวันที่ 20 ม.ค ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับรัสเซียและความพยายามข้องเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั่วโลก ซึ่งเป็นการส่งจากการร้องขอของคาร์ดิน แกนนำพรรคเดโมแครตที่นั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการต่างประเทศประจำสภาสูงสหรัฐฯ
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า ทางชุดทำงานตระหนักดีว่า ข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถถูกเก็บให้รอดพ้นสายตาทรัมป์หรือที่ปรึกษาระดับสูงของเขาได้ แต่อย่างไรก็ตามทางชุดทำงานพยายามอย่างหนักที่จะจำกัดให้คนจำนวนน้อยที่สุดสามารถเข้าถึงเอกสารสำคัญชั้นความลับระดับสูง ที่มีปรากฎชื่อของแหล่งข่าว รวมไปถึงเป้าหมายชาวต่างชาติที่ถูกจับตา
นิวยอร์กไทม์รายงานว่า มากกว่าครึ่งของโหลของทั้งอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่างได้กล่าวถึงความพยายามในการเก็บรักษาและการแจกจ่ายข้อมูลของทีมทำเนียบขาวโอบามา ที่มีบางส่วนกล่าวว่าคนเหล่านั้นพยายามพูดเพื่อดึงความสนใจไปยังข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และทำให้มั่นใจว่ารัฐสภาคองเกรสจะเปิดการสอบ ซึ่งเกือบครึ่งของข้อมูลทั้งหมด ยังคงถูกเก็บเป็นความลับ ทำให้เกิดการตรวจสอบทางสาธารณะต่อการออกมากล่าวอ้างจากโอบามาและรัฐบาลทรัมป์ที่ออกมาโต้ว่า เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในตลอดช่วงหน้าร้อน ที่พบว่าทางวิกีลีกส์ของจูเลียน อัสซานจ์ ได้เริ่มต้นเผยแพร่อีเมลลับของพรรคเดโมแครต DNC และหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯเริ่มดักฟังการสนทนาของเจ้าหน้าที่รัสเซีย ที่ปรึกษาในเรื่องการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของทรัมป์ และพันธมิตรของสหรัฐฯในยุโรปได้เริ่มป้อนข้อมูลที่ว่า คนใกล้ชิดของทรัมป์แอบพบกับพวกรัสเซียในเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และประเทศอื่นๆในยุโรป
แต่อย่างไรก็ตาม การพบปะหารือนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดสำหรับทางเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงข้อมูลจากการดักฟังให้ข้อมูลไม่เพียงพอ ที่ดูเหมือนว่า พวกรัสเซียอยู่ในระหว่างการโต้เถียงว่า พวกเขาจะต้องเข้ายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯมากเท่าใด โดยนิวยอร์กไทม์สระบุว่า สัญญาณเตือนภัยทำเนียบขาวของโอบามาที่สำคัญคือ การโจมตีทางไซเบอร์ของรัสเซียในการเลือกตั้งระดับรัฐช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา และส่งผลทำให้รัฐบาลสหรัฐฯออกมาประณามรัสเซียอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมหลังจากนั้น
นอกจากนี้ยังพบว่า ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนรายงานการประเมินจะถูกเปิดเผยในเดือนมกราคมล่าสุด ประชาคมข่าวกรองร่วมกันค้นหาข้อมูลผ่านระบบฐานข้อมูลทั้งหมดเพื่อค้นหาข้อมูลการติดต่อและข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่มีบางส่วนมีอายุหลายเดือนหลังจากนั้น และต้นเริ่มจัดทำรายงานแสดงความสัมพันธ์การติดต่อระหว่างคนของทรัมป์และเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง
ซึ่งหนังสือพิมพ์เนิวยอร์กไทม์สระบุว่า รูปแบบการติดต่อนั้นไม่แน่ชัด เนื่องจากว่าคนใกล้ชิดจำนวนหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์นั้นทำธุรกิจในรัสเซีย และอาจเป็นไปได้ว่าการพบปะนั้นเกี่ยวข้องกับข้อตกลงทางธุรกิจ ทั้งนี้สื่อสหรัฐฯได้อ้างอิงจากแหล่งข่าวทั้งอดีตและปัจจุบันเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ 4 คน รายงานในเดือนที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้รับข้อมูลของการติดต่อไม่ต่ำกว่า 1 ครั้งระหว่างผู้ช่วยของทรัมป์และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย แต่ทว่าทำเนียบขาวของทรัมป์ออกมาปฎิเสธ โดยกล่าวหาว่า “เป็นข่าวปลอม”
และนับตั้งแต่การรายงานของนิวยอร์กไทม์ส์ในวันที่ 14 ก.พ ถูกเผยแพร่ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯมากกว่า 6 คนออกมายืนยันถึงการติดต่อในรูปแบบต่างๆระหว่างรัสเซียและคนใกล้ชิดทรัมป์