เอเอฟพี - สตอกโฮล์มประกาศในวันพฤหัสบดี (2 มี.ค.) จะนำระบบการเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้งในหน้าร้อนที่จะถึงนี้ อ้างความเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงระดับโลก รวมไปถึงภัยจากรัสเซีย
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า ปีเตอร์ ฮุล์ตควิสต์ (Peter Hultqvist) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสวีเดนออกแถลงการณ์วันพฤหัสบดี (2) แถลงกับสื่อทีทีนิวส์ว่า “รัฐบาลสวีเดนต้องการระบบการป้อนคนที่มีความมั่นคงมากขึ้น และต้องการให้กองทัพสวีเดนมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะสถานการณ์ทางความมั่นคงได้เปลี่ยนไปแล้ว”
เอเอฟพีชี้ว่า สวีเดนเป็นประเทศที่ไม่เกิดสงครามมานานร่วม 200 ปี ยุติระบบเกณฑ์ทหารในปี 2010 หลังจากเห็นว่า การทหารสมัยใหม่นั้นไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนมหาศาล
ทั้งนี้ รัฐบาลเสียงข้างน้อยสตอกโฮล์มในวันพฤหัสบดี (2) มีกำหนดที่จะยื่นร่างกฎหมายเกณฑ์ทหารเข้าสู่สภาเพื่อที่จะสามารถเริ่มบังคับใช้การเกณฑ์ทหารได้ตั้งแต่หน้าร้อนที่จะมาถึงในปีนี้ โดยจะบังคับให้พลเมืองสวีเดนที่เกิดตั้งแต่หลังปี 1999 ต้องทำหน้าที่รับใช้ชาติในระยะเวลานาน 11 เดือน
และคาดว่าร่างกฎหมายนี้จะผ่านรัฐสภาสวีเดน ซึ่งเอเอฟพีชี้ว่าร่างกฎหมายประกาศเกณฑ์ทหารนั้นเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลปีกสายและฝ่ายค้านกลางขวา
และหากร่างกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้สำเร็จ จะเห็นพลเมืองสวีเดนรุ่นใหม่จะเข้าร่วมตั้งแต่ 1 ก.ค. แต่เอเอฟพีชี้ว่า มีแค่ 4,000 คนจากจำนวนทั้งหมดที่มีอายุครบ 18 ปีทั้งชายและหญิงจะถูกเลือกให้เข้าขึ้นอยู่กับความสามารถและความตั้งใจ
โดยคาดว่าคนเหล่านี้จะถูกเรียกตัวในแต่ละปี หลังจากวันที่ 1 ม.ค. 2018 ไปแล้ว
ด้านวิลเฮล์มอูเกรล (อาเกรล Wilhelm Agrell) ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงประจำมหาวิทยาลัยลุนด์ (Lund Universit) ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้กับเอเอฟพีว่า “สถานการณ์ความมั่นคงโลกใหม่นี้ล้วนเป็นสิ่งที่จริง ที่ส่วนหนึ่งมาจากความเคลื่อนไหวทางอำนาจของรัสเซีย ซึ่งที่ผ่านมาถูกประเมินต่ำจนเกินไป และไม่แสดงออกอย่างเปิดเผย”
ทั้งนี้ สวีเดนเหมือนเช่นเดียวกับฟินแลนด์ ที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การนาโต แต่ได้ลงนามร่วมโครงการหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ (Partnership for Peace Programme)ที่มีข้อตกลงกับนาโตในความร่วมมือทางทหารกับกลุ่มประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก
ในปีที่ผ่านมาฟินแลนด์ได้กล่าวหารัสเซียว่าละเมิดน่านฟ้าถึง 2 ครั้ง ที่พบว่าเครื่องบินรบรัสเซียละเมิดผ่านเข้าไปยังเมืองชายฝั่งทางใต้ พอร์วู (Porvoo) ถือเป็นเสมือนสัญญาณเตือนภัยส่งตรงไปยังสตอกโฮล์ม และมอสโกยังประกาศเตือนไปยังทั้งสต็อกโฮล์มและเฮลซิงกิไม่ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การนาโตเด็ดขาด