xs
xsm
sm
md
lg

สภาขุนนางอังกฤษโหวตแก้กฎหมาย Brexit ให้มีการรับรองสิทธิพลเมือง EU

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - สภาขุนนางอังกฤษ (House of Lords) มีมติเมื่อวันพุธ (1 มี.ค.) ให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายซึ่งจะเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เริ่มต้นเจรจาถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป หรือ “เบร็กซิต” โดยเรียกร้องว่าจะต้องมีการรับรองสิทธิพลเมืองอียูที่อาศัยอยู่ในเมืองผู้ดีด้วย

สภาขุนนางซึ่งก็คือ “สภาสูง” ของอังกฤษลงมติ 358 ต่อ 256 เสียงให้แก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว โดยให้มีการระบุว่ารัฐมนตรีจะต้องปกป้องสิทธิของพลเมืองอียูมากกว่า 3 ล้านคน หลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกมาแล้ว

มติดังกล่าวหมายความว่าร่างกฎหมายจะต้องถูกตีกลับไปให้สภาสามัญ (House of Commons) พิจารณาใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้กระบวนการรับรองต้องล่าช้าออกไปอีก ขณะที่ เมย์ มีกำหนดเส้นตายต้องเริ่มต้นเจรจาเบร็กซิตภายในสิ้นเดือนนี้

ก่อนที่สภาขุนนางจะทำการโหวต นายกฯ เมย์ ได้ยืนยันว่า การขอใช้สิทธิตามมาตรา 50 แห่งสนธิสัญญาลิสบอนของอียูเพื่อเริ่มต้นกระบวนการเจรจาแยกตัวให้เสร็จสิ้นภายใน 2 ปีนั้น จะดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

“ดิฉันตั้งใจแน่นอนว่าจะเริ่มต้นเจรจาในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม” เธอกล่าวต่อบรรดา ส.ส.อังกฤษ

ด้านโฆษกกระทรวงเบร็กซิตของอังกฤษก็ระบุว่า รู้สึก “ผิดหวัง” กับการขัดขวางของสภาขุนนาง ทั้งที่ ส.ส.อังกฤษได้โหวตอนุมัติร่างกฎหมายด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ. โดยไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ เลย รวมถึงเรื่องสิทธิของพลเมืองอียูด้วย

เจเรมี คอร์บีน ผู้นำพรรคเลเบอร์ฝ่ายค้าน ได้โพสต์ทวิตเตอร์ชื่นชมผลโหวตของสภาขุนนางว่าเป็น “ข่าวดีมาก” และบอกว่าตนอาจจะสนับสนุนการแก้ไขนี้เมื่อร่างกฎหมายถูกส่งกลับมายังสภาสามัญ

อย่างไรก็ดี โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า รัฐบาลจะพยายาม “คัดค้าน” การแก้ไขร่างกฎหมายในสภาล่าง ซึ่งพรรคคอนเซอร์เวทีฟของ เมย์ ก็ครองเสียงข้างมากอยู่ และหากทำสำเร็จร่างกฎหมายก็จะถูกตีกลับไปยังสภาขุนนางอีกครั้งในลักษณะคล้ายๆ กับการ “ตีปิงปอง”

ความกังวลเรื่องประชากรอียูที่ไหลบ่าเข้ามายังอังกฤษเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการทำประชามติเบร็กซิตเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว และคาดว่านโยบายคนเข้าเมืองจะเป็นเรื่องหนึ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุด เมื่อการเจรจาเริ่มขึ้น

เมย์ ระบุว่า การออกกฎหมายห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีจากรัฐอียู 27 ประเทศคือภารกิจสำคัญที่รัฐบาลจะทำเป็นอย่างแรกๆ แม้ต้องกระทบความสัมพันธ์ทางการค้ากับอียูก็ตาม ทว่าชะตากรรมของพลเมืองอียูที่พำนักอยู่ในอังกฤษนั้นยังไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกังวล

เมย์ เคยยืนยันหลายครั้งว่าต้องการให้คนกลุ่มนี้อาศัยอยู่ในอังกฤษต่อไป แต่ขณะเดียวกันเธอก็จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของพลเมืองอังกฤษ 1.2 ล้านคนที่อยู่ในกลุ่มประเทศอียูด้วย

ศาลสูงสุดอังกฤษมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่า เมย์ ไม่มีอำนาจที่จะขอใช้สิทธิ์ตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนโดยปราศจากความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งนี่อาจเป็นช่องทางให้พวก ส.ส.และ ส.ว.ที่สนับสนุนการอยู่ร่วมกับอียูเตะถ่วงกระบวนการเบร็กซิต
นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ

กำลังโหลดความคิดเห็น