สหรัฐฯ-เกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมรบใหญ่ ผู้นำคิมขู่ยิงตอบโต้ "ไม่ปรานี"

เอเอฟพี - การซ้อมรบครั้งใหญ่ประจำปีระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ (1 มี.ค.) ขณะที่ผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือได้มีคำสั่งไปยังทหารโสมแดงทุกกรมกองให้พร้อมยิงทำลายกองกำลังของศัตรู “โดยไม่ต้องปรานี”

การซ้อมรบภายใต้รหัส “คีย์ รีโซล์ฟ” และ “โฟล อีเกิล” ซึ่งกินเวลาประมาณ 2 เดือนทำให้คาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้นเป็นประจำทุกปี และสำหรับปีนี้สถานการณ์ดูเหมือนจะล่อแหลมเป็นพิเศษ เนื่องจากเกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ และพี่ชายต่างมารดาของผู้นำคิมก็ถูกสายลับโสมแดงวางแผนลอบสังหารที่มาเลเซีย

โฆษกกองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ ระบุว่า กำลังพลที่เข้าร่วมภารกิจฝึกซ้อมในปีนี้ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา

การซ้อมรบในปี 2016 มีทหารเกาหลีใต้เข้าร่วมถึง 300,000 นาย และทหารอเมริกันอีกราว 17,000 นาย รวมไปถึงหมู่เรือรบทางยุทธศาสตร์ และเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ

โฆษกคนเดิมแถลงว่า ภารกิจซ้อมรบ “โฟล อีเกิล” จะใช้ทหารอเมริกันประมาณ 3,600 นาย แต่ไม่ยืนยันตัวเลขที่ชัดเจน

ฮัน มิน กู โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เจมส์ แม็ตทิส โดย “เน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการฝึกซ้อม” ให้เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ซึ่ง แม็ตทิส เองก็รับปากว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะ “ตอบโต้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม” หากเกิดการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุ

ผู้ประท้วงหลายสิบคนได้ไปชุมนุมที่ด้านหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงโซลวันนี้ (1) เพื่อคัดค้านปฏิบัติการซ้อมรบร่วม ซึ่งพวกเขามองว่า “จะยิ่งทำให้คาบสมุทรเกาหลีเสี่ยงต่อการเกิดสงครามนิวเคลียร์”

เปียงยางกล่าวหามาโดยตลอดว่าการซ้อมรบประจำปีระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีเจตนาเพื่อ “ซ้อมรุกราน” เกาหลีเหนือ ขณะที่โซลและวอชิงตันยืนยันในวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตนเอง

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของรัฐโสมแดงรายงานวันนี้ (1) ว่า ผู้นำ คิม จอง อึน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการทหารแห่งหนึ่ง และสดุดีเหล่าทหารที่ “คอยระแวดระวังพวกศัตรูจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ซึ่งพยายามทุกวิถีทางที่จะรุกรานเกาหลีเหนือ”

คิม ยังสั่งให้กองทัพ “เตรียมมาตรการตอบโต้ที่สมบูรณ์แบบและไร้ความปรานี หากถูกกองกำลังของศัตรูโจมตีทางอากาศอย่างไม่คาดฝัน”

ฮวาง เคียว อันห์ นายกรัฐมนตรีและรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบการประกาศอิสรภาพจากญี่ปุ่น 1 มีนาคม โดยยืนยันว่า กองทัพเกาหลีใต้พร้อมที่จะตอบโต้พฤติกรรมยั่วยุของเกาหลีเหนืออย่างเจ็บแสบ และเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีบทลงโทษที่หนักหน่วงยิ่งขึ้นต่อเปียงยาง

ฮวาง ระบุว่า “รัฐบาลจะกดดันให้เกาหลีเหนือเล็งเห็นว่าการใช้อาวุธนิวเคลียร์นั้นไม่มีประโยชน์” และจะยกระดับความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมถึงนำระบบป้องกันขีปนาวุธล้ำสมัยเข้ามาติดตั้งในประเทศ
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงเมื่อปีที่แล้วว่าจะนำระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (THAAD) เข้าไปติดตั้งบนคาบสมุทรเกาหลี เพื่อสกัดภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์และจรวดของเกาหลีเหนือ ทว่าเรื่องนี้ก็สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลจีน ซึ่งเกรงว่าระบบเรดาร์อันทรงพลังของ THAAD อาจสอดแนมเข้าไปถึงดินแดนของตน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของปักกิ่ง

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้เซ็นสัญญาแลกที่ดินกับบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ล็อตเต้ เมื่อวันอังคาร (28 ก.พ.) โดยจะใช้ที่ดินผืนดังกล่าวติดตั้งระบบ THAAD ที่สหรัฐฯ จะส่งเข้ามายังเกาหลีใต้ภายในปีนี้

กระทรวงการต่างประเทศจีนเตือนว่า ระบบ THAAD “เป็นภัยต่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์” ของภูมิภาค และขอให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ระวัง “ผลที่จะติดตามมา”