เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ศูนย์บัญชาการทหาร 2 แห่งในเมืองฮอมส์ (Homs) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของซีเรียวันนี้ (25 ก.พ.) ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 42 ราย สถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียและผู้สังเกตการณ์ รายงาน
รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอน ระบุว่า “มีผู้ก่อเหตุอย่างน้อย 6 คนกดระเบิดฆ่าตัวตายใกล้ๆ กับศูนย์บัญชาการหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยข่าวกรองทหาร”
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียระบุว่า เหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนซึ่งเกิดขึ้นที่ย่านกูตา (Ghouta) และมาฮัตตา (Mahatta) ยังทำให้ พล.อ.ฮัสซัน ดาบูล ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองประจำจังหวัดฮอมส์ และเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เสียชีวิตด้วย
หลังเกิดเหตุกองกำลังความมั่นคงซีเรียได้ทำการปิดล้อมย่านใจกลางเมืองเอาไว้ทั้งหมด
เมืองฮอมส์กลับมาอยู่ในความควบคุมของฝ่ายรัฐบาลอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่เดือน พ.ค.ปี 2014 หลังจากกบฏซีเรียยอมล่าถอยออกไปตามข้อตกลงหยุดยิงที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เป็นคนกลางสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม เมืองแห่งนี้ยังคงถูกโจมตีด้วยระเบิดหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนเมื่อต้นปี 2016 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 64 ราย
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียได้สดุดีวีรกรรมของทหารที่ต้อง “สละชีพ” ในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งล่าสุด
แม้จะยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่การก่อเหตุลักษณะนี้คล้ายกับกลยุทธ์ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งยังคงมีอิทธิพลอยู่ในย่านชนบททางตะวันออกของเมืองฮอมส์
กองทัพของประธานาธิบดีอัสซาด ซึ่งได้รัสเซียหนุนหลังสามารถช่วงชิงเมืองพัลไมรา และซากเมืองโบราณมรดกโลก กลับคืนมาจากไอเอสได้เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องสูญเสียเมืองให้แก่พวกนักรบญิฮาดอีกในเดือน ธ.ค. หลังจากนั้นกองทัพซีเรียได้เปลี่ยนเป้าหมายไปยังเมืองอะเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ที่อยู่ห่างออกไปทางตอนเหนือ และสามารถชิงเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้กลับคืนมาได้พร้อมกับพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมืองเมื่อเดือน ธ.ค.