รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปิดลบ 1 เปอร์เซ็นต์ในวันศุกร์ (24 ก.พ.) จากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้น นักลงทุนเชื่อมั่นผลดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ขณะที่ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 46 เซ็นต์ ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 59 เซ็นต์ ปิดที่ 55.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ส อิงก์ ผู้ให้บริการทางพลังงาน ระบุว่ามีการเดินเครื่องแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ก่อความกังวลทางอุปทาน ซึ่งบดบังความพยายามลดกำลังผลิตของโอเปกและชาติผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ
“ตลาดน้ำมันยังโฟกัสไปที่ความสมดุลของตลาดโลก ด้วยความสนใจอยู่ที่การปฏิบัติตามข้อตกลงลดผลิตของโอเปกและกำลังผลิตที่ขยายตัวในสหรัฐฯ” ไมเคิล ทราน ผู้อำนวยการยุทธศาตร์พลังงานของอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เกตส์ในนิวยอร์กกล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (24 ก.พ.) ปรับขึ้นในกรอบแคบๆ นักลงทุนเชื่อมั่นในผลดำเนินงานของบริษัทต่างๆ แม้เริ่มไม่แน่ใจต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 11.44 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,821.76 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.53 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,367.34 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.80 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,845.31 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 จากความเชื่อมั่นต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆในไตรมาสถัดๆไป แม้ปราศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม สกอตต์ คลีมอนต์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของบราวน์ บราเธอร์ส แฮร์ริมัน ในนิวยอร์ก เตือนว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจเหือดหายไป หากรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่มีความคืบหน้าในมาตรการลดภาษี ผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆและใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (24 ก.พ.) ดีดตัว 2 วันติด แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนครึ่ง จากแรงหนุนของดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,258.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์